นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดเผยถึงข่าวดีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของพี่น้องอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ทั่วประเทศ ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามออกระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายให้แก่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2560 แล้ว โดยกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความจำเป็นต้องเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายให้แก่อาสาสมัครฯ เพื่อเป็นค่าป่วยการชดเชยการงานหรือเวลาที่เสียไป เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ก็ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีสิทธิเบิกจ่ายได้ โดยให้นำหลักเกณฑ์ตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติว่าด้วยค่าใช้จ่ายของอาสาสมัครในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2560 มาใช้บังคับ
อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินการตามภารกิจอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวกับงานการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือการรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามกฎหมาย อาสาสมัครมีสิทธิได้รับเงินค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นค่าป่วยการชดเชยการงานหรือเวลาที่เสียไปเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นอาสาสมัครขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของพื้นที่ที่ได้รับคำสั่งให้ช่วยสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่จากผู้บริหารท้องถิ่นนั้น อาสาสมัครขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของพื้นที่อื่นที่ไปสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ตามคำร้องขอจากผู้บริหารท้องถิ่นนั้น และทางด้านค่าใช้จ่ายก็ให้เป็นไปตามอัตราค่าใช้จ่ายที่กำหนดไว้ตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติว่าด้วยค่าใช้จ่ายของอาสาสมัครในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2560 โดยให้ตั้งงบประมาณไว้ในหมวดค่าตอบแทน ประเภทค่าตอบแทนผู้ปฏิบัติราชการ อันเป็นประโยชน์แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงฐานะทางการเงินการคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ความเหมาะสมและจำเป็นด้วยนั่นเอง
สำหรับระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายให้แก่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2560 จะช่วยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถออกคำสั่งให้อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) เข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่ เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง ในการอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนในด้านต่างๆ ในช่วงวันหยุดราชการหรือช่วงเทศกาลต่างๆ ได้ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชนได้อย่างคล่องตัว และมีประสิทธิภาพ ให้พี่น้องประชาชนได้รับบริการและสิ่งที่ดีเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งหวังว่าระเบียบกระทรวงมหาดไทยฉบับนี้ จะช่วยทำให้พี่น้องอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ทั่วประเทศ มีขวัญและกำลังใจในการอุทิศตนต่อผู้อื่นและส่วนรวมด้วยความเข้มแข็งเพิ่มมากขึ้น
อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินการตามภารกิจอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวกับงานการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือการรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามกฎหมาย อาสาสมัครมีสิทธิได้รับเงินค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นค่าป่วยการชดเชยการงานหรือเวลาที่เสียไปเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นอาสาสมัครขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของพื้นที่ที่ได้รับคำสั่งให้ช่วยสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่จากผู้บริหารท้องถิ่นนั้น อาสาสมัครขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของพื้นที่อื่นที่ไปสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ตามคำร้องขอจากผู้บริหารท้องถิ่นนั้น และทางด้านค่าใช้จ่ายก็ให้เป็นไปตามอัตราค่าใช้จ่ายที่กำหนดไว้ตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติว่าด้วยค่าใช้จ่ายของอาสาสมัครในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2560 โดยให้ตั้งงบประมาณไว้ในหมวดค่าตอบแทน ประเภทค่าตอบแทนผู้ปฏิบัติราชการ อันเป็นประโยชน์แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงฐานะทางการเงินการคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ความเหมาะสมและจำเป็นด้วยนั่นเอง
สำหรับระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายให้แก่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2560 จะช่วยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถออกคำสั่งให้อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) เข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่ เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง ในการอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนในด้านต่างๆ ในช่วงวันหยุดราชการหรือช่วงเทศกาลต่างๆ ได้ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้แก่พี่น้องประชาชนได้อย่างคล่องตัว และมีประสิทธิภาพ ให้พี่น้องประชาชนได้รับบริการและสิ่งที่ดีเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งหวังว่าระเบียบกระทรวงมหาดไทยฉบับนี้ จะช่วยทำให้พี่น้องอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ทั่วประเทศ มีขวัญและกำลังใจในการอุทิศตนต่อผู้อื่นและส่วนรวมด้วยความเข้มแข็งเพิ่มมากขึ้น