นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม ทำให้เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 11 จังหวัด ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกระบี่ สตูล ยะลา นราธิวาส ชุมพร ปัตตานี และตรัง โดยยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี รวม 20 อำเภอ 152 ตำบล 1,194 หมู่บ้าน 121,473 ครัวเรือน 367,876 คน พร้อมเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง ตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติม เพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่
ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 16 – 22 ธันวาคมนี้ ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จึงได้ประสานจังหวัดแในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน ระดับน้ำ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด สำหรับอ่าวไทยและทะเลอันดามันคลื่นลมมีกำลังแรง และคลื่นสูง 2 – 3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งระมัดระวังอันตรายจากคลื่นซัดฝั่ง โดยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 16 – 22 ธันวาคมนี้ ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จึงได้ประสานจังหวัดแในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน ระดับน้ำ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด สำหรับอ่าวไทยและทะเลอันดามันคลื่นลมมีกำลังแรง และคลื่นสูง 2 – 3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งระมัดระวังอันตรายจากคลื่นซัดฝั่ง โดยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง