นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม สนช. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามที่คณะกรรมการสรรหาได้สรรหามา 5 คน และจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 2 คน โดยจะเป็นการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติ
ทั้งนี้ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช. ได้อภิปรายว่า รายชื่อในส่วนของคณะกรรมการสรรหา 5 คนนั้น ไม่มีปัญหา แต่ติดใจใน 2 รายชื่อที่มาจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ว่าการเลือกเป็นการลงมติโดยเปิดเผยตามมาตรา 12 วรรคสาม ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือไม่ เนื่องจากมีข่าวระบุว่าเป็นการลงมติโดยไม่เปิดเผย ถึงแม้ศาลจะออกมาชี้แจงว่าทำถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความชัดเจน จึงอยากขอให้ศาลฎีกาชี้แจงขั้นตอนและตอบกลับมาก่อนว่ากระบวนการสรรหาถูกต้องหรือไม่
นอกจากนี้ เห็นว่าควรพิจารณาตั้งกรรมาธิการฯ ตรวจสอบประวัติผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 7 คน ไปพร้อมกัน ไม่ควรพิจารณาเฉพาะ 5 คนที่มาจากคณะกรรมการสรรหาไปก่อน เพราะหากทั้ง 5 คน ได้รับการโปรดเกล้าฯ ก็จะไปสู่ขั้นตอนการเลือกประธาน กกต. ซึ่งจะทำให้ 2 คนในสัดส่วนที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา อาจเสียสิทธิไม่ได้รับเลือกเป็นประธาน กกต.ได้
ทั้งนี้ มีสมาชิก สนช.ท่านอื่นที่เห็นด้วยกับการอภิปรายของนายวัลลภ นายสุรชัย จึงได้สอบถามที่ประชุมว่ามีสมาชิก สนช.เห็นเป็นอย่างอื่นหรือไม่ ซึ่งไม่มีสมาชิก สนช.คนใดที่เห็นแตกต่าง นายสุรชัย จึงแจ้งต่อที่ประชุมว่า จะให้ประธาน สนช.ทำหนังสือสอบถามต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาถึงวิธีการสรรหาผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต.ในสัดส่วนของศาลฎีกา 2 คน ว่าได้ดำเนินการคัดเลือกโดยเปิดเผยตามขั้นตอนหรือไม่ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติก่อน ดังนั้น จึงขอเลื่อนวาระการพิจารณาในวันนี้ออกไป เพื่อรอหนังสือตอบกลับจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาก่อน จึงค่อยตั้งกรรมาธิการฯ เพื่อตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติผู้ได้รับการสรรหาเป็น กกต.ทั้ง 7 คน ในคราวเดียวกัน
ทั้งนี้ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช. ได้อภิปรายว่า รายชื่อในส่วนของคณะกรรมการสรรหา 5 คนนั้น ไม่มีปัญหา แต่ติดใจใน 2 รายชื่อที่มาจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ว่าการเลือกเป็นการลงมติโดยเปิดเผยตามมาตรา 12 วรรคสาม ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือไม่ เนื่องจากมีข่าวระบุว่าเป็นการลงมติโดยไม่เปิดเผย ถึงแม้ศาลจะออกมาชี้แจงว่าทำถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความชัดเจน จึงอยากขอให้ศาลฎีกาชี้แจงขั้นตอนและตอบกลับมาก่อนว่ากระบวนการสรรหาถูกต้องหรือไม่
นอกจากนี้ เห็นว่าควรพิจารณาตั้งกรรมาธิการฯ ตรวจสอบประวัติผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 7 คน ไปพร้อมกัน ไม่ควรพิจารณาเฉพาะ 5 คนที่มาจากคณะกรรมการสรรหาไปก่อน เพราะหากทั้ง 5 คน ได้รับการโปรดเกล้าฯ ก็จะไปสู่ขั้นตอนการเลือกประธาน กกต. ซึ่งจะทำให้ 2 คนในสัดส่วนที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา อาจเสียสิทธิไม่ได้รับเลือกเป็นประธาน กกต.ได้
ทั้งนี้ มีสมาชิก สนช.ท่านอื่นที่เห็นด้วยกับการอภิปรายของนายวัลลภ นายสุรชัย จึงได้สอบถามที่ประชุมว่ามีสมาชิก สนช.เห็นเป็นอย่างอื่นหรือไม่ ซึ่งไม่มีสมาชิก สนช.คนใดที่เห็นแตกต่าง นายสุรชัย จึงแจ้งต่อที่ประชุมว่า จะให้ประธาน สนช.ทำหนังสือสอบถามต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาถึงวิธีการสรรหาผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต.ในสัดส่วนของศาลฎีกา 2 คน ว่าได้ดำเนินการคัดเลือกโดยเปิดเผยตามขั้นตอนหรือไม่ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติก่อน ดังนั้น จึงขอเลื่อนวาระการพิจารณาในวันนี้ออกไป เพื่อรอหนังสือตอบกลับจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาก่อน จึงค่อยตั้งกรรมาธิการฯ เพื่อตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติผู้ได้รับการสรรหาเป็น กกต.ทั้ง 7 คน ในคราวเดียวกัน