นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท.สนับสนุนโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ เพราะเป็นโครงการที่ดี ช่วยผู้มีรายได้น้อยได้ตรงจุดมากขึ้น และผลจากการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยช่วยให้มาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลจะดำเนินการไปช่วยเหลือตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และการที่รัฐบาลโอนเงินให้ผู้มีรายได้น้อยรายละ 200 - 300 บาทนั้น เป็นการจ่ายก็จริง แต่รัฐบาลก็ไปลดงบประมาณด้านอื่น จึงถือเป็นการใช้งบประมาณที่มีความแม่นยำมากขึ้น ซึ่ง ส.อ.ท.สนับสนุนในเรื่องนี้อยู่แล้ว
ส่วนโครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยตามโครงการสวัสดิการแห่งรัฐระยะที่ 2 ที่จะมีขึ้นต่อไปในอนาคตนั้น ต้องการเห็นมาตรการในลักษณะเปิดโอกาสช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยได้พัฒนาทักษะของตนเอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่คิดว่าน่าจะสามารถดำเนินการได้ รวมถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นต้น
ประธาน ส.อ.ท. ย้ำว่า โครงการสวัสดิการแห่งรัฐต้องมีความแม่นยำมากขึ้น เพื่อให้มาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลจะผลักดันลงไปตรงสู่ผู้มีรายได้น้อยซึ่งเป็นเป้าหมายให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ส่วนกรณีร้านธงฟ้า ซึ่งเป็นจุดที่ผู้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเข้ามาใช้สิทธิ์ซื้อสินค้า และมีการตั้งข้อสังเกตว่า เป็นสินค้าจากผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่เท่านั้น ไม่มีสินค้าโอทอปหรือสินค้าที่ผลิตจากวิสาหกิจชุมชนเข้าไปจำหน่ายด้วยนั้น นายเจน กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวสามารถขยายประเภทสินค้าเพิ่มเติมได้ สำหรับผู้ขายสินค้าให้กับร้านธงฟ้าในที่ขณะนี้เป็นกลุ่มผู้ที่อยู่ในระบบภาษี ซึ่งทำให้การเก็บข้อมูลการตรวจสอบยอดต่างๆ ได้ง่าย มีที่มาที่ไปชัดเจน ดังนั้น หากมีผู้ที่ต้องการจำหน่ายสินค้าในร้านธงฟ้าเพิ่ม ก็น่าจะเปิดให้มีการลงทะเบียนได้ ส่วนการจะเพิ่มจำนวนร้านธงฟ้าหรือไม่นั้น ต้องให้กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้พิจารณาต่อไป
ส่วนโครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยตามโครงการสวัสดิการแห่งรัฐระยะที่ 2 ที่จะมีขึ้นต่อไปในอนาคตนั้น ต้องการเห็นมาตรการในลักษณะเปิดโอกาสช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยได้พัฒนาทักษะของตนเอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่คิดว่าน่าจะสามารถดำเนินการได้ รวมถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นต้น
ประธาน ส.อ.ท. ย้ำว่า โครงการสวัสดิการแห่งรัฐต้องมีความแม่นยำมากขึ้น เพื่อให้มาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลจะผลักดันลงไปตรงสู่ผู้มีรายได้น้อยซึ่งเป็นเป้าหมายให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ส่วนกรณีร้านธงฟ้า ซึ่งเป็นจุดที่ผู้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเข้ามาใช้สิทธิ์ซื้อสินค้า และมีการตั้งข้อสังเกตว่า เป็นสินค้าจากผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่เท่านั้น ไม่มีสินค้าโอทอปหรือสินค้าที่ผลิตจากวิสาหกิจชุมชนเข้าไปจำหน่ายด้วยนั้น นายเจน กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวสามารถขยายประเภทสินค้าเพิ่มเติมได้ สำหรับผู้ขายสินค้าให้กับร้านธงฟ้าในที่ขณะนี้เป็นกลุ่มผู้ที่อยู่ในระบบภาษี ซึ่งทำให้การเก็บข้อมูลการตรวจสอบยอดต่างๆ ได้ง่าย มีที่มาที่ไปชัดเจน ดังนั้น หากมีผู้ที่ต้องการจำหน่ายสินค้าในร้านธงฟ้าเพิ่ม ก็น่าจะเปิดให้มีการลงทะเบียนได้ ส่วนการจะเพิ่มจำนวนร้านธงฟ้าหรือไม่นั้น ต้องให้กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้พิจารณาต่อไป