นิตยสารไทมส์ประกาศรายชื่อผู้ที่มีโอกาสได้รับตำแหน่งบุคคลแห่งปีนี้ ปรากฏว่ามีชื่อของ นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือเป็นหนึ่ง 1ใน 10 ที่มีโอกาสได้รับตำแหน่งดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ มีโอกาสที่จะได้รับตำแหน่งดังกล่าวเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน แม้นิตยสารไทมส์เพิ่งออกมาตอบโต้ว่า ไม่เคยให้สัญญากับทรัมป์ว่าจะเลือกตัวเขาเป็นบุคคลแห่งปีอีกครั้ง หากยอมให้สัมภาษณ์และถ่ายรูป
ส่วนบุคคลอื่นๆ ที่ติดโผและคนไทยค่อนข้างคุ้นชื่อ อาทิ ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ผู้นำจีน เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ที่มีบทบาทสำคัญในการจับกุมเชื้อพระวงศ์ที่ทุจริต และ นายเจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ขายของออนไลน์แอมะซอน
โดยหลักการสำคัญของการตัดสินเลือกบุคคลแห่งปีคือ ผู้ที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์สำคัญไม่ว่าจะดีหรือร้าย และไม่จำกัดเฉพาะเพียงบุคคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้นแต่ยังรวมถึง การเคลื่อนไหวทางสังคม เช่นการรณรงค์ติดแอชแท็ก Me Too เพื่อต่อต้านการคุกคามทางเพศ หรือ กลุ่มคนเช่น ดรีมเมอส์ ซึ่งเป็นประชาชนที่มีสถานะผู้อพยพแบบไม่มีเอกสาร ที่เดินทางเข้ามาอาศัยในสหรัฐฯ ตั้งแต่เป็นเด็กพร้อมๆ กับพ่อแม่
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ มีโอกาสที่จะได้รับตำแหน่งดังกล่าวเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน แม้นิตยสารไทมส์เพิ่งออกมาตอบโต้ว่า ไม่เคยให้สัญญากับทรัมป์ว่าจะเลือกตัวเขาเป็นบุคคลแห่งปีอีกครั้ง หากยอมให้สัมภาษณ์และถ่ายรูป
ส่วนบุคคลอื่นๆ ที่ติดโผและคนไทยค่อนข้างคุ้นชื่อ อาทิ ประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ผู้นำจีน เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ที่มีบทบาทสำคัญในการจับกุมเชื้อพระวงศ์ที่ทุจริต และ นายเจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ขายของออนไลน์แอมะซอน
โดยหลักการสำคัญของการตัดสินเลือกบุคคลแห่งปีคือ ผู้ที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์สำคัญไม่ว่าจะดีหรือร้าย และไม่จำกัดเฉพาะเพียงบุคคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้นแต่ยังรวมถึง การเคลื่อนไหวทางสังคม เช่นการรณรงค์ติดแอชแท็ก Me Too เพื่อต่อต้านการคุกคามทางเพศ หรือ กลุ่มคนเช่น ดรีมเมอส์ ซึ่งเป็นประชาชนที่มีสถานะผู้อพยพแบบไม่มีเอกสาร ที่เดินทางเข้ามาอาศัยในสหรัฐฯ ตั้งแต่เป็นเด็กพร้อมๆ กับพ่อแม่