นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ว่าที่ประชุมเห็นชอบการประกาศเขตส่งเสริมเพื่อกิจการอุตสาหกรรม ในปี 2560 และแผนการดำเนินงานในปี 2561 โดยยืนยันว่า นโยบายที่จะขยายการลงทุนอุตสาหกรรมเฉพาะในเขตนิคมอุสาหกรรมเท่านั้น และขอให้การนิคมเร่งประสานงานกับผู้ที่ประสงค์จะจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมใน EEC โดยเร็ว ให้ได้เท่ากับเป้าหมาย 50,000 ไร่ ใน 5 ปี
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบกรอบเวลาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับอีอีซี ทั้งโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา รวมถึงรับทราบความก้าวหน้า โครงการสำคัญด้านพื้นฐาน ทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และการพัฒนาท่าเรือ และการขนส่งทางรางเพื่อเชื่อม 3 ท่าเรือ
ขณะที่นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก กล่าวว่าในที่ประชุมเห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการการพัฒนาบุคลากร การศึกษา การวิจัย และเทคโนโลยี (พ.ศ.2560 - 2564) เพื่อให้เกิดความเชื่อโยงกับแผนอื่น ๆ เป็นระบบเดียวกัน ซึ่งเน้นการผลิตบุคลากรและสร้างความรู้ความต้องการของตลาด โดยนายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงศึกษาไปปรับปรุงหลักสูตร เพื่อให้ตรงกับสายงานที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งได้มีการอนุมัติงบประมาณจากงบกลาง ปี 2561 วงเงิน 861.02 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายในปี 2561 ผลิตครูต้นแบบในอุตสาหกรรมเป้าหมายอย่างเร่งด่วนอย่างน้อย 150 คน พร้อมจัดโครงการให้เด็กและเยาวชนได้รับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ หุ่นยนต์ ระบบอัติโนมัติ และระบบสารสนเทศ จำนวน 40,000 คน และโครงการให้เกษตรกรจำนวน 10,000 คน และในวันที่ 8 ธันวาคมนี้ จะลงพื้นที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากคนในพื้นที่ เพื่อนำมาปรับปรุงแผนและโครงการในระยะปานกลางโดยเร็ว
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบกรอบเวลาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับอีอีซี ทั้งโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา รวมถึงรับทราบความก้าวหน้า โครงการสำคัญด้านพื้นฐาน ทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และการพัฒนาท่าเรือ และการขนส่งทางรางเพื่อเชื่อม 3 ท่าเรือ
ขณะที่นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก กล่าวว่าในที่ประชุมเห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการการพัฒนาบุคลากร การศึกษา การวิจัย และเทคโนโลยี (พ.ศ.2560 - 2564) เพื่อให้เกิดความเชื่อโยงกับแผนอื่น ๆ เป็นระบบเดียวกัน ซึ่งเน้นการผลิตบุคลากรและสร้างความรู้ความต้องการของตลาด โดยนายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงศึกษาไปปรับปรุงหลักสูตร เพื่อให้ตรงกับสายงานที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งได้มีการอนุมัติงบประมาณจากงบกลาง ปี 2561 วงเงิน 861.02 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายในปี 2561 ผลิตครูต้นแบบในอุตสาหกรรมเป้าหมายอย่างเร่งด่วนอย่างน้อย 150 คน พร้อมจัดโครงการให้เด็กและเยาวชนได้รับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ หุ่นยนต์ ระบบอัติโนมัติ และระบบสารสนเทศ จำนวน 40,000 คน และโครงการให้เกษตรกรจำนวน 10,000 คน และในวันที่ 8 ธันวาคมนี้ จะลงพื้นที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากคนในพื้นที่ เพื่อนำมาปรับปรุงแผนและโครงการในระยะปานกลางโดยเร็ว