นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษภายในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 35 ณ โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า จ.สุราษฎร์ธานี โดยแสดงความมั่นใจว่า ไตรมาส 3 ปีนี้ เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 4 อย่างแน่นอน เพราะปีนี้ถือเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง จากการที่ภาครัฐพยายามเร่งโครงการลงทุนต่างๆ ออกมา ทำให้การลงทุนเติบโตอย่างก้าวกระโดด ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนก็มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้เพิ่มขึ้น ขณะที่ต่างประเทศให้ความสนใจมาลงทุนในอาเซียนมากขึ้น และประเทศไทยมีความพร้อมรับการลงทุนจากต่างประเทศ ทำให้จีดีพีของไทยขณะนี้แม้จะยังขยายตัวไม่สูงเท่ากับประเทศอื่น แต่เป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง ในขณะที่ประเทศอื่นเศรษฐกิจเริ่มชะลอความแรง
นายสมคิด ยังคาดการณ์ด้วยว่า เศรษฐกิจไทยปีหน้าจะยิ่งขยายตัวดีขึ้นกว่าปีนี้ และมีโอกาสที่จะขยายตัวได้มากกว่าร้อยละ 4 จากการเร่งรัดการลงทุนจากรัฐวิสาหกิจ รวมถึงการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ และโครงสร้างพื้นฐาน อย่างโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งกำลังขับเคลื่อนและสร้างความเชื่อมั่น ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าในไตรมาสที่ 1 ปีหน้า ทุกโครงการลงทุนในอีอีซีจะสามารถเริ่มประมูลได้ และจะเริ่มดำเนินการลงทุนได้ไม่เกินไตรมาส 2 ปีเดียวกัน
พร้อมกันนี้ นายสมคิด ได้ฝากการบ้านให้กับภาคเอกชน โดยปีหน้าขอให้หอการค้าช่วยเน้นการพัฒนาท้องถิ่น สร้างรายได้ให้กับชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า องค์กรในท้องถิ่น มีการนำงบประมาณมาพัฒนาสินค้าและบริการของแต่ละชุมชน เพิ่มมูลค่าเพื่อสร้างรายได้ และความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนต้องพัฒนาให้มีความสามารถแข่งขันในยุค 4.0 ให้ได้ รวมทั้งต้องทำ Big Data เพื่อจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ และมั่นใจว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ในระดับที่สูงขึ้นและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
นายสมคิด ยังคาดการณ์ด้วยว่า เศรษฐกิจไทยปีหน้าจะยิ่งขยายตัวดีขึ้นกว่าปีนี้ และมีโอกาสที่จะขยายตัวได้มากกว่าร้อยละ 4 จากการเร่งรัดการลงทุนจากรัฐวิสาหกิจ รวมถึงการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ และโครงสร้างพื้นฐาน อย่างโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งกำลังขับเคลื่อนและสร้างความเชื่อมั่น ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าในไตรมาสที่ 1 ปีหน้า ทุกโครงการลงทุนในอีอีซีจะสามารถเริ่มประมูลได้ และจะเริ่มดำเนินการลงทุนได้ไม่เกินไตรมาส 2 ปีเดียวกัน
พร้อมกันนี้ นายสมคิด ได้ฝากการบ้านให้กับภาคเอกชน โดยปีหน้าขอให้หอการค้าช่วยเน้นการพัฒนาท้องถิ่น สร้างรายได้ให้กับชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า องค์กรในท้องถิ่น มีการนำงบประมาณมาพัฒนาสินค้าและบริการของแต่ละชุมชน เพิ่มมูลค่าเพื่อสร้างรายได้ และความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนต้องพัฒนาให้มีความสามารถแข่งขันในยุค 4.0 ให้ได้ รวมทั้งต้องทำ Big Data เพื่อจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ และมั่นใจว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ในระดับที่สูงขึ้นและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง