นาวาอากาศตรี มณธนิก รักงาม ผู้อำนวยการท่าอากาศยาน เชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลยี่เป็งประจำปี 2560 ระหว่างวันที่ 3-4 พฤศจิกายนนี้ มีเที่ยวบินที่ยกเลิกทำการบินจำนวน 78 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินในประเทศ 58 เที่ยวบิน และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 20 เที่ยวบิน นอกจากนี้ มีเที่ยวบินที่เปลี่ยนแปลงเวลาทำการบินจำนวนทั้งสิ้น 79 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินภายในประเทศ 53 เที่ยวบิน และเที่ยวบินระหว่าง ประเทศ 26 เที่ยวบิน และมีเที่ยวบินภายในประเทศทำการบินเพิ่ม 3 เที่ยวบิน
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงและยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าว เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการประชาชน เนื่องจากสายการบินได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวทราบล่วงหน้า เพื่อวางแผนการเดินทางที่เหมาะสมแล้ว พร้อมกันนี้ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้เข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการรักษาความปลอดภัย อาทิ เพิ่มวงรอบการตรวจการณ์ ทั้งภายในอาคารผู้โดยสาร และบริเวณพื้นที่รอบท่าอากาศยาน ตั้งจุดสุ่มตรวจยานพาหนะที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ท่าอากาศยานเป็นระยะ สุ่มตรวจสัมภาระ และผู้โดยสารตามมาตรฐานที่กำหนด รวมทั้งห้ามจอดยานพาหนะบริเวณชานชาลาหน้าอาคารผู้โดยสารอย่างเด็ดขาด
สำหรับการรณรงค์เรื่องการปล่อยโคมลอยให้ปลอดภัย ก่อนหน้านี้ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้มีหนังสือขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานราชการและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงวัด สถานศึกษา และชุมชน ที่อยู่ในเขตความปลอดภัยในการเดินอากาศ ประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนให้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อยโคมลอยที่เหมาะสมในช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ ในเรื่องการปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดทำและการปล่อยโคมควันโคมลอยอย่างเคร่งครัด คือห้ามปล่อยโคมลอย โคมควัน ในเขตพื้นที่ความปลอดภัยในการเดินอากาศ ยกเว้นแต่เป็นการปล่อยตามประเพณียี่เป็ง (ลอยกระทง) ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 และวันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 3 และ 4 พฤศจิกายน
อย่างไรก็ตาม ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข คือ ให้ปล่อยโคมลอย/โคมไฟ ระหว่างเวลา 19.00 - 01.00 น. ส่วนโคมควัน สามารถปล่อยได้ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ระหว่างเวลา 10.00 - 12.00 น. และตั้งแต่วันที่ 1-5 พฤศจิกายน ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้เพิ่มรอบความถี่ในการตรวจทางวิ่ง ทางขับ จากเดิมวันละ 4 ครั้ง เป็น 10 ครั้ง เพื่อตรวจเก็บซากโคมที่อาจถูกกระแสลมพัดมาตกในพื้นที่เขตการบิน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการเก็บโคมลอยและโคมควัน โดยพร้อมออกไปเก็บซากโคมลอยได้ทันที หากได้รับแจ้งจากหอบังคับการบินหรือจากนักบิน
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงและยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าว เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการประชาชน เนื่องจากสายการบินได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวทราบล่วงหน้า เพื่อวางแผนการเดินทางที่เหมาะสมแล้ว พร้อมกันนี้ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้เข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการรักษาความปลอดภัย อาทิ เพิ่มวงรอบการตรวจการณ์ ทั้งภายในอาคารผู้โดยสาร และบริเวณพื้นที่รอบท่าอากาศยาน ตั้งจุดสุ่มตรวจยานพาหนะที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ท่าอากาศยานเป็นระยะ สุ่มตรวจสัมภาระ และผู้โดยสารตามมาตรฐานที่กำหนด รวมทั้งห้ามจอดยานพาหนะบริเวณชานชาลาหน้าอาคารผู้โดยสารอย่างเด็ดขาด
สำหรับการรณรงค์เรื่องการปล่อยโคมลอยให้ปลอดภัย ก่อนหน้านี้ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้มีหนังสือขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานราชการและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงวัด สถานศึกษา และชุมชน ที่อยู่ในเขตความปลอดภัยในการเดินอากาศ ประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนให้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อยโคมลอยที่เหมาะสมในช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ ในเรื่องการปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดทำและการปล่อยโคมควันโคมลอยอย่างเคร่งครัด คือห้ามปล่อยโคมลอย โคมควัน ในเขตพื้นที่ความปลอดภัยในการเดินอากาศ ยกเว้นแต่เป็นการปล่อยตามประเพณียี่เป็ง (ลอยกระทง) ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 และวันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 3 และ 4 พฤศจิกายน
อย่างไรก็ตาม ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข คือ ให้ปล่อยโคมลอย/โคมไฟ ระหว่างเวลา 19.00 - 01.00 น. ส่วนโคมควัน สามารถปล่อยได้ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ระหว่างเวลา 10.00 - 12.00 น. และตั้งแต่วันที่ 1-5 พฤศจิกายน ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้เพิ่มรอบความถี่ในการตรวจทางวิ่ง ทางขับ จากเดิมวันละ 4 ครั้ง เป็น 10 ครั้ง เพื่อตรวจเก็บซากโคมที่อาจถูกกระแสลมพัดมาตกในพื้นที่เขตการบิน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการเก็บโคมลอยและโคมควัน โดยพร้อมออกไปเก็บซากโคมลอยได้ทันที หากได้รับแจ้งจากหอบังคับการบินหรือจากนักบิน