พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (30 ต.ค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประชุมกองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (กอร.พระราชพิธีฯ) ณ ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อรับทราบสรุปการอำนวยการงานที่สำคัญด้านต่างๆ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ 76 จังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1-30 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทั้งด้านการถวายความปลอดภัย การดูแลความปลอดภัยสถานที่และรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ การอำนวยความสะดวกการจราจร การบริการด้านอื่นๆ เช่น การขนส่ง การแพทย์ ด้านอาหาร เครื่องดื่มและสุขา รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ ซึ่งในภาพรวมการควบคุม อำนวยการและการกำกับดูแล เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
โดยสรุปในภาพรวม มีประชาชนเดินทางเข้าร่วมพระราชพิธีในพื้นที่ชั้นใน รอบบริเวณพระบรมมหาราชวังและมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 25 - 26 ตุลาคม รวมประมาณ 230,000 คน และประชาชนร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จในพระราชพิธีเก็บพระบรมอัฐิ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ประมาณ 24,000 คน สำหรับพื้นที่จัดสร้างพระเมรุมาศจำลองและจุดวางดอกไม้จันทน์ มีประชาชนมาร่วมวางดอกไม้จันทน์ในกรุงเทพมหานครจำนวนประมาณ 3,300,000 คน และต่างจังหวัดประมาณ 16,170,000 คน
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความขอบคุณคณะกรรมการอำนวยการและเจ้าหน้าที่ทุกคนจากทุกส่วนราชการทั่วประเทศ ที่ได้ทุ่มเท ตั้งใจทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ตลอดเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยเป็นการทำงานด้วยหัวใจของความจงรักภักดีร่วมกัน เพื่อให้งานพระราชพิธีที่สำคัญยิ่งนี้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล ด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติสูงสุด พร้อมกับขอให้นำปัญหาและการดำเนินงานที่ผ่านมาสรุปเป็นบทเรียนการทำงานร่วมกัน เพื่อบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ของหน่วยงานต่อไป
พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณประชาชนคนไทยทุกคนทั่วประเทศ ที่มีน้ำใจและพยายามเข้าใจ ให้ความร่วมมือกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่ร่วมกันเตรียมงานและอำนวยการงานพระราชพิธีนี้ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม้จะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ด้วยความมีหัวใจเดียวกัน ก็ได้ร่วมกันคลี่คลายแก้ไขด้วยความเข้าใจร่วมกันด้วยดี
สำหรับการทำงานของ กอร.พระราชพิธีฯ ณ ศาลาว่าการกลาโหม ถือว่าสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล และจะส่งมอบพื้นที่ให้กับกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 1 (กกล.รส. ทภ.1) ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม เป็นต้นไป เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกประชาชน ที่จะเปิดให้เข้าชมพระเมรุมาศและนิทรรศการ ตลอดเดือนพฤศจิกายน ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน เป็นต้นไป
โดยสรุปในภาพรวม มีประชาชนเดินทางเข้าร่วมพระราชพิธีในพื้นที่ชั้นใน รอบบริเวณพระบรมมหาราชวังและมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 25 - 26 ตุลาคม รวมประมาณ 230,000 คน และประชาชนร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จในพระราชพิธีเก็บพระบรมอัฐิ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ประมาณ 24,000 คน สำหรับพื้นที่จัดสร้างพระเมรุมาศจำลองและจุดวางดอกไม้จันทน์ มีประชาชนมาร่วมวางดอกไม้จันทน์ในกรุงเทพมหานครจำนวนประมาณ 3,300,000 คน และต่างจังหวัดประมาณ 16,170,000 คน
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความขอบคุณคณะกรรมการอำนวยการและเจ้าหน้าที่ทุกคนจากทุกส่วนราชการทั่วประเทศ ที่ได้ทุ่มเท ตั้งใจทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ตลอดเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยเป็นการทำงานด้วยหัวใจของความจงรักภักดีร่วมกัน เพื่อให้งานพระราชพิธีที่สำคัญยิ่งนี้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล ด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติสูงสุด พร้อมกับขอให้นำปัญหาและการดำเนินงานที่ผ่านมาสรุปเป็นบทเรียนการทำงานร่วมกัน เพื่อบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ของหน่วยงานต่อไป
พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณประชาชนคนไทยทุกคนทั่วประเทศ ที่มีน้ำใจและพยายามเข้าใจ ให้ความร่วมมือกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่ร่วมกันเตรียมงานและอำนวยการงานพระราชพิธีนี้ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม้จะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ด้วยความมีหัวใจเดียวกัน ก็ได้ร่วมกันคลี่คลายแก้ไขด้วยความเข้าใจร่วมกันด้วยดี
สำหรับการทำงานของ กอร.พระราชพิธีฯ ณ ศาลาว่าการกลาโหม ถือว่าสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล และจะส่งมอบพื้นที่ให้กับกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 1 (กกล.รส. ทภ.1) ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม เป็นต้นไป เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกประชาชน ที่จะเปิดให้เข้าชมพระเมรุมาศและนิทรรศการ ตลอดเดือนพฤศจิกายน ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน เป็นต้นไป