นายมานิจ สุขสมจิตร ประธานอนุกรรมการด้านสื่อสารกับสังคม ในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) กล่าวว่า พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการประสานงานเพื่อลงพื้นที่เร็วๆ นี้ เพื่อดูงานโรงพักต้นแบบ "สถานีตำรวจล้ำสมัย" 3 แห่ง คือ ในเขตนครบาล ที่ สน.ภาษีเจริญ ในเขตภูมิภาค ที่ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ และในเขตปกครองพิเศษ ที่ สภ.เมืองพัทยา เพื่อนำข้อมูลมาจัดทำแผนปฏิรูปตำรวจ
ทั้งนี้ การลงพื้นที่โรงพักตัวอย่างดังกล่าว เนื่องมาจากการที่คณะอนุกรรมการด้านวิชาการฯ ที่มี ศ.ดร.ศุภชัย ยาวะประภาษ เป็นประธานอนุกรรมกรรมการฯ และคณะได้นำเสนอข้อมูลของที่ประชุมคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจถึงแนวโน้มอาชญากรรมในอนาคตว่า อาชญากรรมทางเทคโนโลยีจะมีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยด้วย มีความเสี่ยงถึงร้อยละ 41
สำหรับแนวทางการรับมือกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีนั้น คณะทำงานฯ ชี้แจงว่า จำเป็นจะต้องปฏิรูปการให้บริการประชาชนผ่านระบบอีเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะต้องให้ความรู้ให้ทักษะและติดอาวุธทางปัญญาให้ประชาชน ทั้งยังจะต้องเพิ่มสมรรถนะให้แก่ตำรวจพื้นที่ สร้างความเชี่ยวชาญเฉพาะให้แก่ตำรวจส่วนกลาง พร้อมทั้งการสร้างระบบการทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจส่วนกลาง ตำรวจพื้นที่ และชุมชน ซึ่งจำเป็นจะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน และเมื่อได้ลงพื้นที่ไปดูโรงพักตัวอย่างแล้ว จะได้กำหนดแผนปฏิรูปตำรวจผสมกับยุทธศาสตร์การปฏิรูปกิจการตำรวจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ รวมทั้งจะต้องขจัดข้อจำกัดต่างๆ ซึ่งมีอยู่มากมายให้หมดไป
ด้าน พ.ต.อ.ดร.สัญญา เนียมประดิษฐ์ จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ระบุว่า ภัยคุกคามทางไซเบอร์ มีทั้งภัยคุกคามในเรื่องความมั่นคงปลัดภัยทางไซเบอร์ และภัยคุกคามในเรื่องอาชญากรรมทางไซเบอร์
อย่างไรก็ตาม การที่แนวโน้มอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในประเทศไทยมีจำนวนคดีมากขึ้น เพราะเหตุปัจจัยสำคัญ 2 ประการ คือ ประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยีได้มากขึ้น และสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยตอการเข้าถึงเทคโนโลยีมากขึ้น เช่น นโยบายประเทศไทยแลนด์ 4.0 โครงการพัฒนาภาคตะวันออก (EEC) การทำให้เมืองใหญ่ๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต และขอนแก่น เป็นสมาร์ทซิตี้ (Smart City) และจะขยายเป็น 77 จังหวัดภายใน 5 ปี รวมทั้งนโยบายชุมชนดิจิทัล โครงการเน็ตประชารัฐ จำนวน 24,700 หมู่บ้าน อี-คอมเมิร์ซ e-Health และ e-Local Government เป็นต้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเตรียมตำรวจไว้รับมือกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทั้งที่เกิดขึ้นแล้วและที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ในการนี้คณะอนุกรรมการด้านวิชาการได้ทำการศึกษามาตรการและวิธีการรับมือของตำรวจสิงคโปร์และตำรวจอังกฤษด้วย
ทั้งนี้ การลงพื้นที่โรงพักตัวอย่างดังกล่าว เนื่องมาจากการที่คณะอนุกรรมการด้านวิชาการฯ ที่มี ศ.ดร.ศุภชัย ยาวะประภาษ เป็นประธานอนุกรรมกรรมการฯ และคณะได้นำเสนอข้อมูลของที่ประชุมคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจถึงแนวโน้มอาชญากรรมในอนาคตว่า อาชญากรรมทางเทคโนโลยีจะมีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยด้วย มีความเสี่ยงถึงร้อยละ 41
สำหรับแนวทางการรับมือกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีนั้น คณะทำงานฯ ชี้แจงว่า จำเป็นจะต้องปฏิรูปการให้บริการประชาชนผ่านระบบอีเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะต้องให้ความรู้ให้ทักษะและติดอาวุธทางปัญญาให้ประชาชน ทั้งยังจะต้องเพิ่มสมรรถนะให้แก่ตำรวจพื้นที่ สร้างความเชี่ยวชาญเฉพาะให้แก่ตำรวจส่วนกลาง พร้อมทั้งการสร้างระบบการทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจส่วนกลาง ตำรวจพื้นที่ และชุมชน ซึ่งจำเป็นจะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน และเมื่อได้ลงพื้นที่ไปดูโรงพักตัวอย่างแล้ว จะได้กำหนดแผนปฏิรูปตำรวจผสมกับยุทธศาสตร์การปฏิรูปกิจการตำรวจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ รวมทั้งจะต้องขจัดข้อจำกัดต่างๆ ซึ่งมีอยู่มากมายให้หมดไป
ด้าน พ.ต.อ.ดร.สัญญา เนียมประดิษฐ์ จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ระบุว่า ภัยคุกคามทางไซเบอร์ มีทั้งภัยคุกคามในเรื่องความมั่นคงปลัดภัยทางไซเบอร์ และภัยคุกคามในเรื่องอาชญากรรมทางไซเบอร์
อย่างไรก็ตาม การที่แนวโน้มอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในประเทศไทยมีจำนวนคดีมากขึ้น เพราะเหตุปัจจัยสำคัญ 2 ประการ คือ ประชาชนเข้าถึงเทคโนโลยีได้มากขึ้น และสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยตอการเข้าถึงเทคโนโลยีมากขึ้น เช่น นโยบายประเทศไทยแลนด์ 4.0 โครงการพัฒนาภาคตะวันออก (EEC) การทำให้เมืองใหญ่ๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต และขอนแก่น เป็นสมาร์ทซิตี้ (Smart City) และจะขยายเป็น 77 จังหวัดภายใน 5 ปี รวมทั้งนโยบายชุมชนดิจิทัล โครงการเน็ตประชารัฐ จำนวน 24,700 หมู่บ้าน อี-คอมเมิร์ซ e-Health และ e-Local Government เป็นต้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเตรียมตำรวจไว้รับมือกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทั้งที่เกิดขึ้นแล้วและที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ในการนี้คณะอนุกรรมการด้านวิชาการได้ทำการศึกษามาตรการและวิธีการรับมือของตำรวจสิงคโปร์และตำรวจอังกฤษด้วย