วันนี้ (6 ต.ค.) เวลา 15.00 น. ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง สมเด็จพระราชนนี อาชิ เชอริง ยางดน วังชุก พระราชชนนี ของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน และพระมาตุฉาของ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระขนิษฐา และพระราชนัดดาของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะ ที่หน้าพระบรมโกศ พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังทรงลงนามแสดงความอาลัยแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ อาคารว่าการสำนักพระราชวัง
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ไทย และราชวงศ์ภูฏาน นั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้โครงการหลวงใช้เป็นทุนในการช่วยเหลือพัฒนาภูฏาน ในการพัฒนาเกษตรบนพื้นที่สูง โดยมีนักวิชาการ นักการทูต รัฐมนตรีด้านการเกษตรของภูฏาน เดินทางมาศึกษาและเรียนรู้งานที่ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่
สำหรับ สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์นัมเกล วังชุก เมื่อครั้งยังทรงดำรงตำแหน่งมกุฎราชกุมาร ได้โดยเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไปในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อทรงเรียนรู้พระราชกรณียกิจ และการปกครอง และเมื่อทรงทราบว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก มีพระราชกระแสรับสั่งให้ประชาชนภูฏานร่วมกันไว้อาลัยเป็นเวลา 7 วัน โดยให้มีการจุดเทียนและสวดมนต์ เพื่อรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังทรงลงนามแสดงความอาลัยแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ อาคารว่าการสำนักพระราชวัง
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ไทย และราชวงศ์ภูฏาน นั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้โครงการหลวงใช้เป็นทุนในการช่วยเหลือพัฒนาภูฏาน ในการพัฒนาเกษตรบนพื้นที่สูง โดยมีนักวิชาการ นักการทูต รัฐมนตรีด้านการเกษตรของภูฏาน เดินทางมาศึกษาและเรียนรู้งานที่ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่
สำหรับ สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์นัมเกล วังชุก เมื่อครั้งยังทรงดำรงตำแหน่งมกุฎราชกุมาร ได้โดยเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไปในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อทรงเรียนรู้พระราชกรณียกิจ และการปกครอง และเมื่อทรงทราบว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก มีพระราชกระแสรับสั่งให้ประชาชนภูฏานร่วมกันไว้อาลัยเป็นเวลา 7 วัน โดยให้มีการจุดเทียนและสวดมนต์ เพื่อรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช