นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. เปิดเผยความคืบหน้าการจัดซื้อรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ 7 ขบวน ว่า ที่ประชุมบอร์ด รฟท. สั่งให้ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ กลับไปทบทวนแผนการจัดซื้อขบวนรถว่า จะเดินหน้าในรูปแบบใด เพื่อให้สอดคล้องกับการให้บริการประชาชน พร้อมเสนอให้แอร์พอร์ตลิงก์ ปรับปรุงขบวนรถขนสัมภาระ 4 ขบวน มาวิ่งให้บริการก่อนในระหว่างรอขบวนรถใหม่ และรอความชัดเจนในโครงการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ด้วย
ด้านนายสุเทพ พันธุ์เพ็ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มสายงานปฏิบัติการและซ่อมบำรุง บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. ระบุว่า โครงการจัดซื้อรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ 7 ขบวน วงเงิน 4,400 ล้านบาท ทาง รฟท. ได้ตีกลับมาเพื่อจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับแผนพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งหลังจากนี้ แอร์พอร์ตลิงก์ จะเร่งจัดทำข้อมูลเพิ่มเติม โดยเฉพาะปริมาณความต้องการเดินทางในเส้นทางดังกล่าว (พญาไท-สุวรรณภูมิ) ว่าในรอบ 5-10 ปี ระหว่างรอรถไฟฟ้าความเร็วสูงสร้างเสร็จ จะมีความต้องการใช้งานเพิ่มขึ้นเท่าใด มีศักยภาพรองรับเพียงพอหรือไม่ ก่อนส่งเรื่องให้คณะกรรมการบริหารกิจการแอร์พอร์ตลิงก์พิจารณาในเดือนพฤศจิกายนและส่งเรื่องกลับไปยัง บอร์ด รฟท. ในเดือนธันวาคมนี้
ส่วนประเด็นการพิจารณาปรับลดจำนวนการจัดซื้อจากเดิม 7 ขบวนนั้น ยังไม่มีข้อสรุปว่าควรปรับลดจำนวนหรือไม่ เพราะแผนศึกษาจัดซื้อจำนวนดังกล่าวนั้น เพื่อรองรับความต้องการเดินทาง ในปี 2560-2567 มีศักยภาพรองรับ 120,000 คนต่อวัน ซึ่งปัจจุบัน ปริมาณผู้โดยสาร เกินการรองรับเกือบ 10,000 คน แม้จะปรับขบวนรถมาเป็น City Line ทั้งหมดเพื่อเพิ่มปริมาณรองรับแล้วก็ตาม โดยขณะนี้มีขีดการรองรับได้ 72,000 คน แต่ปริมาณในช่วงสูงสุดกลับมีมากถึง 80,000 คน การจัดซื้อรถไฟฟ้า 7 ขบวน จึงต้องทำอย่างรอบคอบ
ด้านนายสุเทพ พันธุ์เพ็ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มสายงานปฏิบัติการและซ่อมบำรุง บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. ระบุว่า โครงการจัดซื้อรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ 7 ขบวน วงเงิน 4,400 ล้านบาท ทาง รฟท. ได้ตีกลับมาเพื่อจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับแผนพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งหลังจากนี้ แอร์พอร์ตลิงก์ จะเร่งจัดทำข้อมูลเพิ่มเติม โดยเฉพาะปริมาณความต้องการเดินทางในเส้นทางดังกล่าว (พญาไท-สุวรรณภูมิ) ว่าในรอบ 5-10 ปี ระหว่างรอรถไฟฟ้าความเร็วสูงสร้างเสร็จ จะมีความต้องการใช้งานเพิ่มขึ้นเท่าใด มีศักยภาพรองรับเพียงพอหรือไม่ ก่อนส่งเรื่องให้คณะกรรมการบริหารกิจการแอร์พอร์ตลิงก์พิจารณาในเดือนพฤศจิกายนและส่งเรื่องกลับไปยัง บอร์ด รฟท. ในเดือนธันวาคมนี้
ส่วนประเด็นการพิจารณาปรับลดจำนวนการจัดซื้อจากเดิม 7 ขบวนนั้น ยังไม่มีข้อสรุปว่าควรปรับลดจำนวนหรือไม่ เพราะแผนศึกษาจัดซื้อจำนวนดังกล่าวนั้น เพื่อรองรับความต้องการเดินทาง ในปี 2560-2567 มีศักยภาพรองรับ 120,000 คนต่อวัน ซึ่งปัจจุบัน ปริมาณผู้โดยสาร เกินการรองรับเกือบ 10,000 คน แม้จะปรับขบวนรถมาเป็น City Line ทั้งหมดเพื่อเพิ่มปริมาณรองรับแล้วก็ตาม โดยขณะนี้มีขีดการรองรับได้ 72,000 คน แต่ปริมาณในช่วงสูงสุดกลับมีมากถึง 80,000 คน การจัดซื้อรถไฟฟ้า 7 ขบวน จึงต้องทำอย่างรอบคอบ