พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม (ยธ.)เดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภายในตึกสำนักงานกรมราชทัณฑ์ จ.นนทบรี หลังจากรับตำแหน่ง และเริ่มงานในตำแหน่งอธิบดีอย่างเป็นทางการวันแรก พร้อมมอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรือนจำ และผู้อำนวยการทัณฑสถาน
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า ปัญหาสำคัญของงานราชทัณฑ์ ที่ต้องเร่งแก้ไข คือ เรื่องผู้ต้องขังล้นคุก เนื่องจากมีกฎหมายที่มีโทษทางอาญาถึงขั้นจำคุกเป็นจำนวนมาก ทำให้การแก้ไขฟื้นฟูด้อยประสิทธิภาพ และยังไม่เห็นผลอย่างชัดเจนเท่าที่ควร นอกจากนี้ เรือนจำโดยส่วนใหญ่มีสภาพเก่าและทรุดโทรม เนื่องจากมีอายุการใช้งานมานาน มีลักษณะเป็นโรงเรือน ทำให้ต้องควบคุมผู้ต้องขังแบบรวม ประกอบกับจำนวนผู้ต้องขังที่มีมาก ทำให้อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อการควบคุมผู้ต้องขังไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ส่งผลการดูแลผู้ต้องขังไม่ทั่วถึง ดังนั้นเมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษออกมาส่วนหนึ่ง จึงย้อนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก ซึ่งจะได้พยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้ และพัฒนาปรับปรุงงานราชทัณฑ์ต่อไป
สำหรับการทำงานจะยึดนโยบาย 5 ก้าวย่างของ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มีกฎเหล็กเรื่องการห้ามมียาเสพติด โทรศัพท์มือถือ และสิ่งของต้องห้ามต่างๆ มีการจัดระเบียบเรือนจำให้สะอาดทุกตารางนิ้ว ฝึกวินัย และสมาธิให้แก่ผู้ต้องขัง รวมทั้งสร้างการยอมรับของสังคมเมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษ โดยรวมภารกิจของกรมราชทัณฑ์ ตั้งแต่ต้นจนจบจะเป็นไปตามนโยบาย 7 ก. ประกอบด้วย 1.กักขัง 2.แก้ไข 3.ยึดหลักกฎหมาย 4.วางกรอบ 5.กลั่นกรอง (การจำแนก จัดชั้นผู้ต้องขัง และการพัก/ลดการลงโทษ) 6.ให้กำลังใจ และ 7.กลับตัว(เป็นคนดีคืนสู่สังคม) จะดำเนินการโดยใช้แนวทาง 3 ส.ในการปฏิบัติหน้าที่ คือสะอาด สุจริต และเสมอภาค
พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า ปัญหาสำคัญของงานราชทัณฑ์ ที่ต้องเร่งแก้ไข คือ เรื่องผู้ต้องขังล้นคุก เนื่องจากมีกฎหมายที่มีโทษทางอาญาถึงขั้นจำคุกเป็นจำนวนมาก ทำให้การแก้ไขฟื้นฟูด้อยประสิทธิภาพ และยังไม่เห็นผลอย่างชัดเจนเท่าที่ควร นอกจากนี้ เรือนจำโดยส่วนใหญ่มีสภาพเก่าและทรุดโทรม เนื่องจากมีอายุการใช้งานมานาน มีลักษณะเป็นโรงเรือน ทำให้ต้องควบคุมผู้ต้องขังแบบรวม ประกอบกับจำนวนผู้ต้องขังที่มีมาก ทำให้อัตราส่วนเจ้าหน้าที่ต่อการควบคุมผู้ต้องขังไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ส่งผลการดูแลผู้ต้องขังไม่ทั่วถึง ดังนั้นเมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษออกมาส่วนหนึ่ง จึงย้อนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก ซึ่งจะได้พยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้ และพัฒนาปรับปรุงงานราชทัณฑ์ต่อไป
สำหรับการทำงานจะยึดนโยบาย 5 ก้าวย่างของ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มีกฎเหล็กเรื่องการห้ามมียาเสพติด โทรศัพท์มือถือ และสิ่งของต้องห้ามต่างๆ มีการจัดระเบียบเรือนจำให้สะอาดทุกตารางนิ้ว ฝึกวินัย และสมาธิให้แก่ผู้ต้องขัง รวมทั้งสร้างการยอมรับของสังคมเมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษ โดยรวมภารกิจของกรมราชทัณฑ์ ตั้งแต่ต้นจนจบจะเป็นไปตามนโยบาย 7 ก. ประกอบด้วย 1.กักขัง 2.แก้ไข 3.ยึดหลักกฎหมาย 4.วางกรอบ 5.กลั่นกรอง (การจำแนก จัดชั้นผู้ต้องขัง และการพัก/ลดการลงโทษ) 6.ให้กำลังใจ และ 7.กลับตัว(เป็นคนดีคืนสู่สังคม) จะดำเนินการโดยใช้แนวทาง 3 ส.ในการปฏิบัติหน้าที่ คือสะอาด สุจริต และเสมอภาค