เจ้าของฟาร์มสุนัขย่านสุขุมวิท ที่ขายสุนัขจำนวน 2 ตัว ให้นักศึกษาแพทย์คนหนึ่ง เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ในฐานะพยาน หลังกลุ่มวอตช์ด็อก ไทยแลนด์ (Watchdog Thailand) เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับนักศึกษาแพทย์ เนื่องจากเชื่อว่าทำการวางยาสุนัขเพื่อหวังเอาเงินประกันจำนวน 40,000 บาท จากบริษัทขนส่ง ที่ถูกว่าจ้างให้นำสุนัขไปส่งที่ปลายทางจังหวัดนครราชสีมา
เจ้าของฟาร์มสุนัข ยืนยันว่า นักศึกษาแพทย์คนดังกล่าวมาซื้อสุนัขจากฟาร์มไป 2 ตัว ตัวแรกซื้อไปเดือนกรกฎาคม และทราบว่าสุนัขตัวนั้นตายไปแล้ว ส่วนสุนัขตัวที่เพิ่งตายและเป็นข่าวอยู่นี้ ซื้อไปเมื่อต้นเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ยืนยันว่า สุนัขของฟาร์มมีการรับรองสุขภาพ และสุนัขที่ขายไปทุกตัวมีสุขภาพดี ส่วนยาที่พบไม่ทราบว่าเป็นยาประเภทใด แต่ไม่ใช่วิตามินสำหรับสุนัข ทั้งนี้ มองว่าจากหลักฐานต่างๆ เป็นการเจตนาฆ่าและหากพบว่ากรณีนี้มีเจตนาฆ่าสุนัข จะร่วมเป็นผู้แจ้งความเอาผิดด้วย
ขณะที่ในสัปดาห์หน้า พนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายเรียกนักศึกษาแพทย์เข้าให้ปากคำถึงเหตุการณ์และมูลเหตุจูงใจ หลังพบว่านักศึกษาแพทย์ได้ซื้อสุนัขในราคา 6,500 บาท จากเจ้าของสุนัข แต่ให้ออกใบเสร็จในราคา 50,000 บาท และพบว่ามีการนำเอกสารดังกล่าวไปวางเงินค้ำประกันกับบริษัทขนส่ง เพื่อเอาเงินกระประกันภัย จำนวน 40,000 บาท
เจ้าของฟาร์มสุนัข ยืนยันว่า นักศึกษาแพทย์คนดังกล่าวมาซื้อสุนัขจากฟาร์มไป 2 ตัว ตัวแรกซื้อไปเดือนกรกฎาคม และทราบว่าสุนัขตัวนั้นตายไปแล้ว ส่วนสุนัขตัวที่เพิ่งตายและเป็นข่าวอยู่นี้ ซื้อไปเมื่อต้นเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ยืนยันว่า สุนัขของฟาร์มมีการรับรองสุขภาพ และสุนัขที่ขายไปทุกตัวมีสุขภาพดี ส่วนยาที่พบไม่ทราบว่าเป็นยาประเภทใด แต่ไม่ใช่วิตามินสำหรับสุนัข ทั้งนี้ มองว่าจากหลักฐานต่างๆ เป็นการเจตนาฆ่าและหากพบว่ากรณีนี้มีเจตนาฆ่าสุนัข จะร่วมเป็นผู้แจ้งความเอาผิดด้วย
ขณะที่ในสัปดาห์หน้า พนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายเรียกนักศึกษาแพทย์เข้าให้ปากคำถึงเหตุการณ์และมูลเหตุจูงใจ หลังพบว่านักศึกษาแพทย์ได้ซื้อสุนัขในราคา 6,500 บาท จากเจ้าของสุนัข แต่ให้ออกใบเสร็จในราคา 50,000 บาท และพบว่ามีการนำเอกสารดังกล่าวไปวางเงินค้ำประกันกับบริษัทขนส่ง เพื่อเอาเงินกระประกันภัย จำนวน 40,000 บาท