พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครได้รับหนังสือแจ้งสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาจากอธิบดีกรมชลประทาน ว่า ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในปัจจุบันอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 1,498 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำหน้าเขื่อนอยู่ที่ระดับ +16.11 ม.รทก. และจากสถานการณ์น้ำที่สถานี C2 อ.เมือง จังหวัดนครสวรรค์ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นนั้น หากไม่มีฝนตกหนักเพิ่มบริเวณ จ.นครสวรรค์ กำแพงเพชร พิจิตร และอุทัยธานี คาดว่าระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยาจะไม่สูงขึ้นเกินกว่าระดับที่สามารถที่รับได้ และปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจะไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตามแผนการระบายน้ำของกรมชลประทาน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันที่ 4-8 กันยายนนี้ จะเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง มีผลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงตั้งแต่ จ.อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี เพิ่มสูงขึ้น 10-15 เซนติเมตร และหลังจากวันที่ 8 กันยายน ก็จะปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการคาดการณ์ดังกล่าว จึงมีความห่วงใยประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่นอกแนวคันป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากน้ำเอ่อล้นตลิ่ง หากมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคกลาง อาจส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยามากขึ้น ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุนในช่วงเวลาดังกล่าว โดยจากการสำรวจมีจำนวน 496 ครัวเรือน ในพื้นที่ 10 เขต ได้แก่ เขตบางซื่อ ดุสิต พระนคร สัมพันธวงศ์ บางคอแหลม ยานนาวา คลองเตย บางกอกน้อย คลองสาน และเขตราษฎร์บูรณะ จึงขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมขนย้ายสิ่งของให้อยู่ในที่สูง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนหากเกิดปัญหาระดับน้ำขึ้นสูง
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้สำนักงานเขตที่มีพื้นที่อยู่ตามแนวริมน้ำเจ้าพระยา สำรวจพื้นที่บ้านเรือนของประชาชน จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนในกรณีฉุกเฉินต่างๆ จัดเตรียมไม้สำรองไว้หากต้องมีการเสริมทางเดินเข้าสู่ชุมชน พร้อมทั้งจัดเตรียมยา เครื่องเวชภัณฑ์ และเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที
สำหรับการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากจะภาวะน้ำทะเลหนุนสูงในพื้นที่ กรุงเทพมหานครได้ก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ ต่อเนื่องครบแล้วในระดับ +2.8 ถึง +3.5 ม.รทก. ขณะเดียวกัน สำนักการระบายน้ำยังได้วางกระสอบทรายไปแล้วประมาณ 1 แสนใบ ในจุดที่เป็นช่องว่าง เช่น บริเวณท่าเรือ อู่เรือ เพื่อป้องกันน้ำที่ทะลักเข้าเมื่อเกิดคลื่น โดยเสริมขึ้นมาที่ระดับ +2.30 ม.รทก. รวมทั้งยังเตรียมกระสอบทรายไว้อีกกว่า 1 แสนใบ เพื่อให้เสริมแนวในจุดที่อาจเกิดการรั่วซึมด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาแม่น้ำเจ้าพระยา วัดระดับที่ปากคลองตลาด น้ำขึ้นสูงสุดเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่ระดับ +1.95 ม.รทก. ส่วนในเดือนกันยายนนี้ น้ำทะเลจะหนุนสูงในช่วงวันที่ 3-8 กันยายน และ 17-26 กันยายน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันที่ 4-8 กันยายนนี้ จะเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง มีผลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงตั้งแต่ จ.อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี เพิ่มสูงขึ้น 10-15 เซนติเมตร และหลังจากวันที่ 8 กันยายน ก็จะปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการคาดการณ์ดังกล่าว จึงมีความห่วงใยประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่นอกแนวคันป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากน้ำเอ่อล้นตลิ่ง หากมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคกลาง อาจส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยามากขึ้น ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุนในช่วงเวลาดังกล่าว โดยจากการสำรวจมีจำนวน 496 ครัวเรือน ในพื้นที่ 10 เขต ได้แก่ เขตบางซื่อ ดุสิต พระนคร สัมพันธวงศ์ บางคอแหลม ยานนาวา คลองเตย บางกอกน้อย คลองสาน และเขตราษฎร์บูรณะ จึงขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมขนย้ายสิ่งของให้อยู่ในที่สูง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนหากเกิดปัญหาระดับน้ำขึ้นสูง
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้สำนักงานเขตที่มีพื้นที่อยู่ตามแนวริมน้ำเจ้าพระยา สำรวจพื้นที่บ้านเรือนของประชาชน จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนในกรณีฉุกเฉินต่างๆ จัดเตรียมไม้สำรองไว้หากต้องมีการเสริมทางเดินเข้าสู่ชุมชน พร้อมทั้งจัดเตรียมยา เครื่องเวชภัณฑ์ และเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที
สำหรับการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากจะภาวะน้ำทะเลหนุนสูงในพื้นที่ กรุงเทพมหานครได้ก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ ต่อเนื่องครบแล้วในระดับ +2.8 ถึง +3.5 ม.รทก. ขณะเดียวกัน สำนักการระบายน้ำยังได้วางกระสอบทรายไปแล้วประมาณ 1 แสนใบ ในจุดที่เป็นช่องว่าง เช่น บริเวณท่าเรือ อู่เรือ เพื่อป้องกันน้ำที่ทะลักเข้าเมื่อเกิดคลื่น โดยเสริมขึ้นมาที่ระดับ +2.30 ม.รทก. รวมทั้งยังเตรียมกระสอบทรายไว้อีกกว่า 1 แสนใบ เพื่อให้เสริมแนวในจุดที่อาจเกิดการรั่วซึมด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาแม่น้ำเจ้าพระยา วัดระดับที่ปากคลองตลาด น้ำขึ้นสูงสุดเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่ระดับ +1.95 ม.รทก. ส่วนในเดือนกันยายนนี้ น้ำทะเลจะหนุนสูงในช่วงวันที่ 3-8 กันยายน และ 17-26 กันยายน