นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างขับเคลื่อนโครงการประชารัฐสวัสดิการ เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงการคลัง จำนวน 11.6 ล้านรายทั่วประเทศ โดยรูปแบบของโครงการเบื้องต้นจะออกเป็นบัตร หรือการ์ด เพื่อสนับสนุนให้สามารถใช้บัตรดังกล่าวซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ราคาถูกกว่าท้องตลาดร้อยละ 15-20 จัดจำหน่ายผ่านร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ร้านค้าโชห่วย และร้านค้าชุมชน ซึ่งอยู่ในการส่งเสริมของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงการคลังจะเป็นผู้กำหนดวงเงินสำหรับใช้จ่ายผ่านบัตรเป็นรายเดือน โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินโครงการได้ในเดือนตุลาคมนี้
ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์จะมีการหารือร่วมกับผู้ผลิตรายใหญ่ เพื่อคัดเลือกรายการสินค้าที่จะนำมาจำหน่ายในโครงการและคาดว่าการดำเนินโครงการดังกล่าว จะกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สำหรับสินค้าที่จำนำมาจำหน่ายในโครงการจะต้องสอดรับกับนโยบายของกระทรวงการคลัง โดยปัจจุบันมีร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่กระทรวงพาณิชย์ให้การส่งเสริมประมาณ 1,000 กว่าร้านค้า รวมถึงจะขอความร่วมมือร้านค้าที่มีความพร้อมเพื่อเข้าสู่ระบบ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเร่งรัดแผนงานเพื่อให้ทันต่อการเปิดตัวโครงการในเดือนตุลาคมนี้ โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ประมาณ 20,000 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสามารถเสนอโครงการประชารัฐสวัสดิการเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบได้ในวันพรุ่งนี้ (29 ส.ค.)
ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์จะมีการหารือร่วมกับผู้ผลิตรายใหญ่ เพื่อคัดเลือกรายการสินค้าที่จะนำมาจำหน่ายในโครงการและคาดว่าการดำเนินโครงการดังกล่าว จะกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สำหรับสินค้าที่จำนำมาจำหน่ายในโครงการจะต้องสอดรับกับนโยบายของกระทรวงการคลัง โดยปัจจุบันมีร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่กระทรวงพาณิชย์ให้การส่งเสริมประมาณ 1,000 กว่าร้านค้า รวมถึงจะขอความร่วมมือร้านค้าที่มีความพร้อมเพื่อเข้าสู่ระบบ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเร่งรัดแผนงานเพื่อให้ทันต่อการเปิดตัวโครงการในเดือนตุลาคมนี้ โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ประมาณ 20,000 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสามารถเสนอโครงการประชารัฐสวัสดิการเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบได้ในวันพรุ่งนี้ (29 ส.ค.)