บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง วันนี้ (27 ส.ค.) ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 298 ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เดินทางมาสักการะพระบรมศพอย่างเนืองแน่น ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
นางสุภัทรา บุตรพวง ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่า ต.ผาช้างน้อย อ.ปง จ.พะเยา กล่าวว่า วันนี้พาเจ้าหน้าที่ในโครงการฯ พร้อมด้วยเกษตรกรในพื้นที่โครงการหลวงปังค่า รวม 50 คน เดินทางมาเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงก่อตั้งโครงการหลวงขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ให้มีอาชีพและมีที่อยู่อาศัย
ขณะที่นายแคะเว่น ศรีสมบัติ อายุ 65 ปี ข้าราชการครูบำนาญ และในฐานะผู้นำชนเผ่าเมี่ยน (เย้า) หมู่บ้านปางค่า ต.ผาช้างน้อย อ.ปง จ.พะเยา กล่าวว่า ดีใจที่ได้มีโอกาสเดินทางมาในวันนี้ เนื่องจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อชนเผ่าอย่างหาที่สุดมิได้ ซึ่งก่อนนี้บรรพบุรุษของตนได้อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตสู้รบใน อ.เชียงคำ จ.พะเยา ต่อมาประมาณปี 2512 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชานุญาตให้ชนเผ่าเมี่ยนได้เข้ามาอยู่อาศัยในประเทศไทยอย่างปลอดภัย ประมาณ 80 ครอบครัว และในปี 2517 พระองค์เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรที่หมู่บ้านใหม่ร่มเย็น ที่ทรงตั้งขึ้น เนื่องจากทรงเป็นห่วงชาวบ้าน และตนได้มีโอกาสเฝ้าฯ รับเสด็จ
พระองค์ทรงรับสั่งว่าให้ช่วยดูแลเรื่องความเป็นอยู่ อาชีพ และด้านการศึกษาของชาวบ้าน และให้ชาวบ้านช่วยกันดูแลป่า หลังจากนั้นก็ทรงพระราชทานโครงการหลวงขึ้นในพื้นที่ และส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกพื้ชผักเมืองหนาว อะโวคาโด เสาวรส และเสี้ยงสัตว์
"ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงมีจิตใจที่กว้างขวาง เอื้ออารีต่อชนเผ่า ได้พระราชทานพระราชานุญาตให้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยอย่างปลอดภัยและเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย และพระองค์ยังเสด็จฯ ไปทรงดูแล พัฒนาส่งเสริมในทุกๆ อย่าง ทำให้ชนเผ่ามีอาชีพ มีรายได้ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยังทรงส่งเสริมวัฒนธรรมเดิมของชนเผ่าให้สืบต่อกันมา ผมและชนเผ่ารู้สึกทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างมาก" นายแคะเว่น กล่าว
นางสุภัทรา บุตรพวง ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่า ต.ผาช้างน้อย อ.ปง จ.พะเยา กล่าวว่า วันนี้พาเจ้าหน้าที่ในโครงการฯ พร้อมด้วยเกษตรกรในพื้นที่โครงการหลวงปังค่า รวม 50 คน เดินทางมาเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงก่อตั้งโครงการหลวงขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ให้มีอาชีพและมีที่อยู่อาศัย
ขณะที่นายแคะเว่น ศรีสมบัติ อายุ 65 ปี ข้าราชการครูบำนาญ และในฐานะผู้นำชนเผ่าเมี่ยน (เย้า) หมู่บ้านปางค่า ต.ผาช้างน้อย อ.ปง จ.พะเยา กล่าวว่า ดีใจที่ได้มีโอกาสเดินทางมาในวันนี้ เนื่องจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อชนเผ่าอย่างหาที่สุดมิได้ ซึ่งก่อนนี้บรรพบุรุษของตนได้อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตสู้รบใน อ.เชียงคำ จ.พะเยา ต่อมาประมาณปี 2512 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชานุญาตให้ชนเผ่าเมี่ยนได้เข้ามาอยู่อาศัยในประเทศไทยอย่างปลอดภัย ประมาณ 80 ครอบครัว และในปี 2517 พระองค์เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรที่หมู่บ้านใหม่ร่มเย็น ที่ทรงตั้งขึ้น เนื่องจากทรงเป็นห่วงชาวบ้าน และตนได้มีโอกาสเฝ้าฯ รับเสด็จ
พระองค์ทรงรับสั่งว่าให้ช่วยดูแลเรื่องความเป็นอยู่ อาชีพ และด้านการศึกษาของชาวบ้าน และให้ชาวบ้านช่วยกันดูแลป่า หลังจากนั้นก็ทรงพระราชทานโครงการหลวงขึ้นในพื้นที่ และส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกพื้ชผักเมืองหนาว อะโวคาโด เสาวรส และเสี้ยงสัตว์
"ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงมีจิตใจที่กว้างขวาง เอื้ออารีต่อชนเผ่า ได้พระราชทานพระราชานุญาตให้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยอย่างปลอดภัยและเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย และพระองค์ยังเสด็จฯ ไปทรงดูแล พัฒนาส่งเสริมในทุกๆ อย่าง ทำให้ชนเผ่ามีอาชีพ มีรายได้ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยังทรงส่งเสริมวัฒนธรรมเดิมของชนเผ่าให้สืบต่อกันมา ผมและชนเผ่ารู้สึกทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างมาก" นายแคะเว่น กล่าว
