พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธุ์ รักษาราชการแทน ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงการใช้ใบสั่งจราจรรูปแบบใหม่ หลังมีการประกาศใช้ในราชกิจจาบุเบกษา เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2560 โดยระบุว่า ได้มีการเปลี่ยนแปลงใบสั่งจราจรทั้งรูปแบบเขียน และรูปแบบที่ส่งทางไปรษณีย์ โดยทั้งสองแบบ จะมีการเพิ่มรายละเอียดต่าง ๆ ให้ชัดเจนมากขึ้น อาทิ ใบสั่งแบบเขียนด้วยมือ จะมีขนาดเล็กลง เพิ่มบาร์โค้ด เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบข้อมูลและการชำระค่าปรับ มีการระบุชื่อผู้ออกใบสั่งอย่างชัดเจน และกรณีประชาชนเห็นว่า การแจ้งข้อหาจราจรหรือการออกใบสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย สามารถปฏิเสธข้อหาได้ ซึ่งตำรวจจะบันทึกข้อมูลการปฏิเสธในใบสั่ง เพื่อให้ผู้ได้รับใบสั่งไปพบพนักงานสอบสวน ให้ตรวจสอบภายใน 15 วัน หากผู้ได้รับใบสั่งไม่ได้กระทำผิดจริง จะดำเนินการยกเลิกใบสั่งต่อไป โดยขณะนี้ ยังมีการใช้ใบสั่งแบบเก่าไปก่อน เนื่องจากอยู่ระหว่างการจัดพิมพ์ใบสั่งใหม่ คาดว่าจะสามารถใช้ได้ภายใน 120 วัน
ส่วนใบสั่งที่ส่งทางไปรษณีย์ เริ่มใช้พร้อมกันแล้วทั่วประเทศ ซึ่งจะมีข้อมูลการบันทึกคะแนน ใน 27 ข้อหาหลักด้วย เพื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถเก็บสถิติข้อมูลการกระทำผิดต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน และเชื่อมั่นว่าจะช่วยลดปัญหาการเรียกรับสินบนของเจ้าพนักงานจราจรได้อย่างแน่นอน
พล.ต.ท.วิทยา กล่าวด้วยว่า การบันทึกข้อมูล สถิติข้อหาการกระทำผิดกฎหมายจราจร จะทำให้ตำรวจสามารถนำมาวางแผนป้องกันอุบัติเหตุได้มากขึ้น และจะช่วยลดปัญหาด้านการจราจรได้มากขึ้น
ส่วนใบสั่งที่ส่งทางไปรษณีย์ เริ่มใช้พร้อมกันแล้วทั่วประเทศ ซึ่งจะมีข้อมูลการบันทึกคะแนน ใน 27 ข้อหาหลักด้วย เพื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถเก็บสถิติข้อมูลการกระทำผิดต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน และเชื่อมั่นว่าจะช่วยลดปัญหาการเรียกรับสินบนของเจ้าพนักงานจราจรได้อย่างแน่นอน
พล.ต.ท.วิทยา กล่าวด้วยว่า การบันทึกข้อมูล สถิติข้อหาการกระทำผิดกฎหมายจราจร จะทำให้ตำรวจสามารถนำมาวางแผนป้องกันอุบัติเหตุได้มากขึ้น และจะช่วยลดปัญหาด้านการจราจรได้มากขึ้น
