นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม – 16 สิงหาคม 2560 ทำให้เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 44 จังหวัด 302 อำเภอ 1,689 ประชาชนได้รับผลกระทบ 583,448 ครัวเรือน 1,850,403 คน ผู้เสียชีวิต 34 ราย เบื้องต้นบ้านเรือนเสียหาย 2,754 หลัง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 37 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 7 จังหวัด 32 อำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบ 43,980 ครัวเรือน 136,616 คน จุดอพยพ 37 จุด ได้แก่
1. สกลนคร น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 18 อำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบ 136,582 ครัวเรือน 431,277 คน ผู้เสียชีวิต 11 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกุสุมาลย์ และอำเภอโคกศรีสุพรรณ
2. กาฬสินธุ์ น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 18 อำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบ 34,087 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ยางตลาด ฆ้องชัย กมลาไสย และอำเภอร่องคำ
3. นครพนม ฝนที่ตกหนักและมวลน้ำจากหนองหาร จังหวัดสกลนครไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 11 อำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบ 22,541 ครัวเรือน 64,857 คน ผู้เสียชีวิต 4 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาแก อำเภอนาหว้า
4. ร้อยเอ็ด น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 20 อำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบ 84,522 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 4 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสลภูมิ เชียงขวัญ จังหาร โพธิ์ชัย และอำเภอทุ่งเขาหลวง
5. ยโสธร น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 9 อำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบ 22,019 ครัวเรือนปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองยโสธร คำเขื่อนแก้ว มหาชนะชัย และอำเภอค้อวัง
6. อุบลราชธานี น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 22 อำเภอประชาชนได้รับผลกระทบ 21,330 ครัวเรือน 62,020 คน ผู้เสียชีวิต 1 ราย บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 796 หลัง ปัจจุบันยังมีสถานการณ์ใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี วารินชำราบ ม่วงสามสิบ และอำเภอเขื่องใน
7.พระนครศรีอยุธยา ผลกระทบจากเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำ ทำให้น้ำท่วมในพื้นที่
6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางบาล เสนา บางปะอิน ผักไห่ พระนครศรีอยุธยา และอำเภอบางไทร ประชาชนได้รับผลกระทบ 15,814 ครัวเรือน
ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ พร้อมกำชับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วให้เร่งสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย หากประชาชนได้รับผลกระทบจากอุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
1. สกลนคร น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 18 อำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบ 136,582 ครัวเรือน 431,277 คน ผู้เสียชีวิต 11 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกุสุมาลย์ และอำเภอโคกศรีสุพรรณ
2. กาฬสินธุ์ น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 18 อำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบ 34,087 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ยางตลาด ฆ้องชัย กมลาไสย และอำเภอร่องคำ
3. นครพนม ฝนที่ตกหนักและมวลน้ำจากหนองหาร จังหวัดสกลนครไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 11 อำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบ 22,541 ครัวเรือน 64,857 คน ผู้เสียชีวิต 4 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาแก อำเภอนาหว้า
4. ร้อยเอ็ด น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 20 อำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบ 84,522 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 4 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสลภูมิ เชียงขวัญ จังหาร โพธิ์ชัย และอำเภอทุ่งเขาหลวง
5. ยโสธร น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 9 อำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบ 22,019 ครัวเรือนปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองยโสธร คำเขื่อนแก้ว มหาชนะชัย และอำเภอค้อวัง
6. อุบลราชธานี น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 22 อำเภอประชาชนได้รับผลกระทบ 21,330 ครัวเรือน 62,020 คน ผู้เสียชีวิต 1 ราย บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 796 หลัง ปัจจุบันยังมีสถานการณ์ใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี วารินชำราบ ม่วงสามสิบ และอำเภอเขื่องใน
7.พระนครศรีอยุธยา ผลกระทบจากเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำ ทำให้น้ำท่วมในพื้นที่
6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางบาล เสนา บางปะอิน ผักไห่ พระนครศรีอยุธยา และอำเภอบางไทร ประชาชนได้รับผลกระทบ 15,814 ครัวเรือน
ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ พร้อมกำชับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วให้เร่งสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย หากประชาชนได้รับผลกระทบจากอุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป