เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2560 ที่หอประชุมกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 ได้มีการจัดปฐมนิเทศพระวงศานุวงศ์ ราชสกุล ข้าราชบริพารในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แพทย์-พยาบาลผู้ที่เคยถวายงาน สมาคม องค์กร มูลนิธิ โรงเรียน ที่จะเข้าร่วมในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ ,พล.ท.ม.ล.กุลชาติ ดิศกุล,พล.ต.ณัฐวัฒน์ อัคนิบุตร ที่ปรึกษาคณะกรรมการริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศฯ ร่วมเป็นผู้บรรยาย
ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ กล่าวว่า พระวงศานุวงศ์ ราชสกุล ข้าราชบริพารในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แพทย์-พยาบาลผู้ที่เคยถวายงาน สมาคม องค์กร มูลนิธิ โรงเรียน ที่ได้รับคัดเลือกมาร่วมในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ในครั้งนี้นับว่าโชคดีที่สุดที่ได้เกิดมาภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร เกิดในรัชสมัยรัชกาลที่ 9 นับว่าทุกคนโชคดีจริงๆ ซึ่งคณะกรรมการได้ทำการคัดสรรผู้ที่ได้รับหน้าที่อันทรงเกียรตินี้เป็นอย่างดีที่สุด
ขณะที่ พล.ท.ม.ล.กุลชาติ ดิศกุล ในฐานะผู้ประสานงานราชสกุลทุกมหาสาขา กล่าวเพิ่มเติมถึงหลักการคัดเลือกพระประยูรญาติในการเข้าร่วมในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ว่า ครั้งนี้มีราชสกุลทุกมหาสาขาจำนวน 100 ราชสกุล จาก 129 ราชสกุล มาร่วมในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ เนื่องด้วยอีก 29 ราชสกุลนั้นมิได้มีผู้สืบทอดแล้ว โดยการพิจารณานั้นคณะกรรมการจะพิจารณา 2 เรื่องด้วยกัน ประกอบด้วย 1.คัดเลือกจากผู้ที่เคยร่วมในพระราชพิธีริ้วขบวนพระราชอิสริยยศในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพรรณวดี และ 2.ดูความเหมาะสมในเรื่องของพระชันษา เพราะ หม่อมเจ้าบางพระองค์ทรงมีชันษามากแล้ว ไม่สามารถอยู่ในริ้วขบวนได้เป็นเวลานาน โดยในริ้วขบวนที่ 2 นี้มีเพียงหม่อมเจ้า 4 พระองค์เท่านั้น คือ พล.ท.ม.จ.เฉลิมศึก ยุคล,ร.อ.ม.จ.นวพรรษ์ ยุคล, ม.จ.หญิงศรีสว่างวงศ์ ยุคล (บุญจิตราดุลย์) และท่านหญิงนภดลเฉลิมศรี ยุคลนอกจากนี้ก็ยังประกอบไปด้วย ม.ร.ว. และ ม.ล. ส่วนในริ้วขบวนที่ 3 อัญเชิญพระบรมโกศพระบรมศพเวียนรอบพระเมรุมาศโดยอุตราวัฎ (เวียนซ้าย) ซึ่งจะมีสมาชิกราชสกุลทุกมหาสาขา และในริ้วขบวนที่ 5 เชิญพระบรมอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยานไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท นั้นก็จะมีหม่อมเจ้าพระชันษาสูงเสด็จในริ้วขบวนด้วย อาทิ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล และ ม.จ.ฑิฆัมพร ยุคล เป็นต้น
ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ กล่าวว่า พระวงศานุวงศ์ ราชสกุล ข้าราชบริพารในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แพทย์-พยาบาลผู้ที่เคยถวายงาน สมาคม องค์กร มูลนิธิ โรงเรียน ที่ได้รับคัดเลือกมาร่วมในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ในครั้งนี้นับว่าโชคดีที่สุดที่ได้เกิดมาภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร เกิดในรัชสมัยรัชกาลที่ 9 นับว่าทุกคนโชคดีจริงๆ ซึ่งคณะกรรมการได้ทำการคัดสรรผู้ที่ได้รับหน้าที่อันทรงเกียรตินี้เป็นอย่างดีที่สุด
ขณะที่ พล.ท.ม.ล.กุลชาติ ดิศกุล ในฐานะผู้ประสานงานราชสกุลทุกมหาสาขา กล่าวเพิ่มเติมถึงหลักการคัดเลือกพระประยูรญาติในการเข้าร่วมในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ว่า ครั้งนี้มีราชสกุลทุกมหาสาขาจำนวน 100 ราชสกุล จาก 129 ราชสกุล มาร่วมในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ เนื่องด้วยอีก 29 ราชสกุลนั้นมิได้มีผู้สืบทอดแล้ว โดยการพิจารณานั้นคณะกรรมการจะพิจารณา 2 เรื่องด้วยกัน ประกอบด้วย 1.คัดเลือกจากผู้ที่เคยร่วมในพระราชพิธีริ้วขบวนพระราชอิสริยยศในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพรรณวดี และ 2.ดูความเหมาะสมในเรื่องของพระชันษา เพราะ หม่อมเจ้าบางพระองค์ทรงมีชันษามากแล้ว ไม่สามารถอยู่ในริ้วขบวนได้เป็นเวลานาน โดยในริ้วขบวนที่ 2 นี้มีเพียงหม่อมเจ้า 4 พระองค์เท่านั้น คือ พล.ท.ม.จ.เฉลิมศึก ยุคล,ร.อ.ม.จ.นวพรรษ์ ยุคล, ม.จ.หญิงศรีสว่างวงศ์ ยุคล (บุญจิตราดุลย์) และท่านหญิงนภดลเฉลิมศรี ยุคลนอกจากนี้ก็ยังประกอบไปด้วย ม.ร.ว. และ ม.ล. ส่วนในริ้วขบวนที่ 3 อัญเชิญพระบรมโกศพระบรมศพเวียนรอบพระเมรุมาศโดยอุตราวัฎ (เวียนซ้าย) ซึ่งจะมีสมาชิกราชสกุลทุกมหาสาขา และในริ้วขบวนที่ 5 เชิญพระบรมอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยานไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท นั้นก็จะมีหม่อมเจ้าพระชันษาสูงเสด็จในริ้วขบวนด้วย อาทิ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล และ ม.จ.ฑิฆัมพร ยุคล เป็นต้น