ฝ่ายความมั่นคงแจ้งเตือนหน่วยกำลังในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ผ่านโซเชียลไลน์ราชการหน่วยความมั่นคง ให้ระวังและเตรียมพร้อมตรวจสอบเข้ม เนื่องจากในช่วงวันที่ 1-15 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันเชิงสัญลักษณ์ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ซึ่งจะมีการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ความรุนแรงก่อกวน และสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวผู้ก่อการร้ายระดับแกนนำ สั่งการให้สมาชิกรวมกำลัง ขนย้ายอาวุธ เข้าไปในพื้นที่อิทธิพล คาดว่า จะมีความพยายามก่อเหตุสร้างสถานการณ์ด้วยการลอบวางระเบิดแสวงเครื่องเขตพื้นที่เมือง ย่านเศรษฐกิจที่มีคนพลุกพล่าน,ทำลายระบบสาธารณูปโภค,ก่อเหตุก่อกวนทำลายกล้อง CCTV ลอบยิงเจ้าหน้าที่รัฐ และเป้าหมายอ่อนแอ ทั้งชาวไทยพุทธและไทยมุสลิมเฝ้าระวังการโจมตีฐานปฏิบัติการ ขว้างระเบิดแสวงเครื่องจุดตรวจ/จุดสกัดที่มีการระวังป้องกันต่ำ และการซุกซ่อนระเบิดแสวงเครื่องบริเวณพื้นที่ ซึ่งมีการแขวนธง/ป้ายผ้า เพื่อลวง เจ้าหน้าที่ เข้าไปเก็บกู้แล้วก่อเหตุ โดยสั่งเพ่งเล็ง อ.เมือง, อ.ยะหา, อ.กรงปินัง, อ.บันนังสตา จ.ยะลา, อ.เมือง, อ.สุไหงโก-ลก, อ.ตากใบ,อ.สุไหงปาดี,อ.ศรีสาคร,อ.ระแงะ จ.นราธิวาส, อ.หนองจิก, อ.เมือง, อ.ยะหริ่ง, อ.สายบุรี จ.ปัตตานี, อ.หาดใหญ่,อ.สะเดา จ.สงขลา เฝ้าระวังการก่อเหตุพื้นที่ภาคใต้ตอนบนและกรุงเทพฯ
นอกจากนี้ เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ใช้ยุทธวิธีที่ได้อบรม การฝึกฝนอย่างเคร่งครัด ให้มีความพร้อมในการตอบโต้ หากมีการถูกซุ่มโจมตีได้อย่างฉับพลัน ส่วนในเขตเมืองให้กำลัง 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สนธิกำลัง ตั้งด่านตรวจบนถนนสายหลักและสายรอง เน้นยานพาหนะที่เป็นรถยนต์ รถจักรยานยนต์และบุคคลแปลกหน้า ให้ตรวจสอบบัตรประชาชนและเลข 13 หลักอย่างละเอียดด้วย
นอกจากนี้ เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ใช้ยุทธวิธีที่ได้อบรม การฝึกฝนอย่างเคร่งครัด ให้มีความพร้อมในการตอบโต้ หากมีการถูกซุ่มโจมตีได้อย่างฉับพลัน ส่วนในเขตเมืองให้กำลัง 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สนธิกำลัง ตั้งด่านตรวจบนถนนสายหลักและสายรอง เน้นยานพาหนะที่เป็นรถยนต์ รถจักรยานยนต์และบุคคลแปลกหน้า ให้ตรวจสอบบัตรประชาชนและเลข 13 หลักอย่างละเอียดด้วย