วันนี้ (3 ส.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับนายเคซุส มิเกล ซันส์ เอสโกรีอวยลา เอกอัครราชทูตหัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่
พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายก รัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีในการปฏิบัติหน้าที่ของเอกอัครราชทูตหัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปฯ ตลอดระยะเวลา 4 ปี โดยไทยประสงค์ที่จะยกระดับความสัมพันธ์ระดับสูงกับสหภาพยุโรป และพร้อมที่จะหารือกับสหภาพยุโรป ถึงพัฒนาการด้านการเมืองของไทยในด้านต่างๆ ซึ่งเอกอัครราชทูตหัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปฯ กล่าวว่า รับรู้ถึงความพยายามของรัฐบาลในการดำเนินการปฏิรูประเทศในกลับคืนสู่ประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง และขอชื่นชมการทำงานของนายกรัฐมนตรีที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนชาวไทยอย่างแข็งขัน
นายกรัฐมนตรี ยังแสดงความยินดีที่ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับยุโรปยังคงมีพลวัตอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการค้าและการลงทุน โดยเมื่อปี 2559 ไทยได้อนุมัติโครงการส่งเสริมการลงทุนในไทยของบริษัทจากสหภาพยุโรปมากเป็นอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น จึงหวังว่าสหภาพยุโรปจะขยายการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมแสดงความขอบคุณที่ฝ่ายสหภาพยุโรปให้การสนับสนุนในความร่วมมือด้านการประมงและมาตรฐานการบินพลเรือน และขอยืนยันว่าไทยมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาในประเทศอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะประเด็นปัญหา IUU
ในการนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่สหภาพยุโรปได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุม EAS ในฐานะแขกของประธานอาเซียน ที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งเอกอัครราชทูตหัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปฯ แสดงความขอบคุณที่ไทยได้พยายามผลักดันความร่วมมือระหว่างอาเซียน – อียู และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสต้อนรับนายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนสหภาพยุโรปในอนาคตข้างหน้า
พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายก รัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีในการปฏิบัติหน้าที่ของเอกอัครราชทูตหัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปฯ ตลอดระยะเวลา 4 ปี โดยไทยประสงค์ที่จะยกระดับความสัมพันธ์ระดับสูงกับสหภาพยุโรป และพร้อมที่จะหารือกับสหภาพยุโรป ถึงพัฒนาการด้านการเมืองของไทยในด้านต่างๆ ซึ่งเอกอัครราชทูตหัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปฯ กล่าวว่า รับรู้ถึงความพยายามของรัฐบาลในการดำเนินการปฏิรูประเทศในกลับคืนสู่ประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง และขอชื่นชมการทำงานของนายกรัฐมนตรีที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนชาวไทยอย่างแข็งขัน
นายกรัฐมนตรี ยังแสดงความยินดีที่ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับยุโรปยังคงมีพลวัตอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการค้าและการลงทุน โดยเมื่อปี 2559 ไทยได้อนุมัติโครงการส่งเสริมการลงทุนในไทยของบริษัทจากสหภาพยุโรปมากเป็นอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น จึงหวังว่าสหภาพยุโรปจะขยายการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมแสดงความขอบคุณที่ฝ่ายสหภาพยุโรปให้การสนับสนุนในความร่วมมือด้านการประมงและมาตรฐานการบินพลเรือน และขอยืนยันว่าไทยมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาในประเทศอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะประเด็นปัญหา IUU
ในการนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่สหภาพยุโรปได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุม EAS ในฐานะแขกของประธานอาเซียน ที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งเอกอัครราชทูตหัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปฯ แสดงความขอบคุณที่ไทยได้พยายามผลักดันความร่วมมือระหว่างอาเซียน – อียู และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสต้อนรับนายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนสหภาพยุโรปในอนาคตข้างหน้า