บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ประเมินว่า สถานการณ์อุทกภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ล่าสุดอาจมีผลทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของไทยสูญเสียประมาณ 15,725 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.1 ของจีดีพี แบ่งเป็นภาคเกษตรกรรม 12,375 ล้านบาท พาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม 2,000 ล้านบาท การท่องเที่ยวและบริการอื่น ๆ 1,350 ล้านบาท แต่เป็นการประเมินเบื้องต้นที่ไม่ได้รวมความเสียหายด้านทรัพย์สินและยังต้องมีการติดตามระยะเวลาและพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเป็นระยะ และอาจมีการทบทวนตัวเลขนี้ตามความเหมาะสมระยะต่อไป รวมทั้งยังต้องติดตามสภาพภูมิอากาศในช่วงระยะข้างหน้า เนื่องจากยังไม่สิ้นสุดฤดูฝนและยังอาจจะมีพายุเพิ่มเข้ามาอีกในช่วงเวลาที่เหลือของปี
ทั้งนี้ แม้ว่าตัวเลขผลกระทบดังกล่าวอาจมีผลไม่มากต่อภาพรวมเศรษฐกิจระดับประเทศ รวมทั้งไม่กระทบต่อประมาณการเศรษฐกิจไทยของศูนย์วิจัยกสิกรไทยในปัจจุบันที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.4 ในปี 2560 เนื่องจากภาคการส่งออกยังขยายตัวได้ดี
อย่างไรก็ตาม ในระดับภูมิภาคเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบค่อนข้างมากต่อคนในท้องที่ที่ครัวเรือนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็เผชิญความยากลำบากอยู่ก่อนแล้ว จากปัญหารายได้ภาคเกษตร การมีงานทำ รวมทั้งปัญหาในภาคธุรกิจเอสเอ็มอี
ทั้งนี้ แม้ว่าตัวเลขผลกระทบดังกล่าวอาจมีผลไม่มากต่อภาพรวมเศรษฐกิจระดับประเทศ รวมทั้งไม่กระทบต่อประมาณการเศรษฐกิจไทยของศูนย์วิจัยกสิกรไทยในปัจจุบันที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.4 ในปี 2560 เนื่องจากภาคการส่งออกยังขยายตัวได้ดี
อย่างไรก็ตาม ในระดับภูมิภาคเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบค่อนข้างมากต่อคนในท้องที่ที่ครัวเรือนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็เผชิญความยากลำบากอยู่ก่อนแล้ว จากปัญหารายได้ภาคเกษตร การมีงานทำ รวมทั้งปัญหาในภาคธุรกิจเอสเอ็มอี