รายงานข่าวจากศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า จากมาตรการการตรวจสอบ และบังคับใช้เพื่อดูแลความปลอดภัยอาคารสูงนั้น กรณีเป็นอาคารสูงที่ก่อสร้างก่อนการบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมอาคารปี 2535 ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีจำนวน 1,033 อาคาร ซึ่งเป็นอาคารเก่า สร้างก่อนที่กฎหมายจะมีการกำหนดให้ต้องมีระบบความปลอดภัยอาคารบางประเภท ดังนั้นอาคารเก่าที่สร้างก่อนปี 2535 จึงต้องมีการเพิ่มเติมระบบความปลอดภัย ทั้งเส้นทางหนีไฟ ถังดับเพลิง วัสดุกันไฟต่างๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ใช้อาคารมากที่สุด
ทั้งนี้ อาคารเก่าที่ก่อสร้างก่อนปี 2535 ต้องเพิ่มเติมระบบความปลอดภัยได้แก่ 1.ติดตั้งบันไดหนีไฟ โดยกำหนดให้อาคารสูงตั้งแต่ 4 ชั้นขึ้นไป ติดตั้งบันไดหนีไฟ โดยทำด้วยวัสดุที่ไม่ติดไฟ เพิ่มจากบันไดหลักภายในอาคาร เพื่อให้สามารถลำเลียงคนทั้งหมดออกมานอกอาคารได้ภายใน 1 ชั่วโมง
2.ติดตั้งแบบแปลนแผนผังอาคารแต่ละชั้นหน้าลิฟท์ทุกแห่ง และบริเวณห้องโถงทุกชั้นของอาคารให้เห็นชัดเจน รวมถึงตำแหน่งที่ติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิง ประตูหรือทางหนีไฟของชั้นนั้นๆ
3.ติดตั้งเครื่องมือดับเพลิงแบบมือถือตามชนิดและขนาดที่กำหนด โดยให้มี 1 เครื่องต่อพื้นที่ไม่เกิน 1,000 ตารางเมตร ทุกระยะไม่เกิน 45 เมตร แต่ไม่น้อยกว่าชั้นละ 1 เครื่อง
4.ติดตั้งระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้ทุกชั้น ให้คนอยู่ในอาคารได้ยินชัดเจน และอุปกรณ์แจ้งเตือนทั้งระบบแจ้งเหตุอัตโนมัติและระบบแจ้งเหตุด้วยมือ
5.ติดตั้งระบบไฟส่องสว่างสำรอง และป้ายบอกทางหนีไฟ เพื่อให้มีแสงสว่าง สามารถมองเห็นช่องทางเดินได้ขณะเกิดไฟ
6.ติดตั้งระบบป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า ตามมาตรฐานความปลอดภัย
ทั้งนี้ กทม.อยู่ระหว่างดำเนินมาตรการสุ่มตรวจอาคารทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ โดยจะดำเนินการอย่างเข้มข้นกับกลุ่มอาคารเก่าที่ก่อสร้างก่อนปี 2535 โดยจะมีการสุ่มตรวจระบบความปลอดภัยดังกล่าวให้ครอบคลุมมากที่สุด หากพบมีข้อปฏิบัติใดๆ ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย กทม.จะสั่งให้เร่งทำการปรับปรุงแก้ไข ภายใน 30 วัน จากนั้นจะเข้าทำการตรวจซ้ำ โดยหากพบยังไม่มีการแก้ไขตามกำหนด จะต้องเข้าสู่กระบวนการเอาผิดตามกฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร โดยมีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 60,000 บาท และปรับต่อเนื่องอีกวันละ 10,000 บาท จนกว่าจะมีการแก้ไขเสร็จ และหากการแก้ไขไม่ถูกต้อง กทม.จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดโดยการสั่งระงับใช้อาคารนั้นต่อไป
ทั้งนี้ อาคารเก่าที่ก่อสร้างก่อนปี 2535 ต้องเพิ่มเติมระบบความปลอดภัยได้แก่ 1.ติดตั้งบันไดหนีไฟ โดยกำหนดให้อาคารสูงตั้งแต่ 4 ชั้นขึ้นไป ติดตั้งบันไดหนีไฟ โดยทำด้วยวัสดุที่ไม่ติดไฟ เพิ่มจากบันไดหลักภายในอาคาร เพื่อให้สามารถลำเลียงคนทั้งหมดออกมานอกอาคารได้ภายใน 1 ชั่วโมง
2.ติดตั้งแบบแปลนแผนผังอาคารแต่ละชั้นหน้าลิฟท์ทุกแห่ง และบริเวณห้องโถงทุกชั้นของอาคารให้เห็นชัดเจน รวมถึงตำแหน่งที่ติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิง ประตูหรือทางหนีไฟของชั้นนั้นๆ
3.ติดตั้งเครื่องมือดับเพลิงแบบมือถือตามชนิดและขนาดที่กำหนด โดยให้มี 1 เครื่องต่อพื้นที่ไม่เกิน 1,000 ตารางเมตร ทุกระยะไม่เกิน 45 เมตร แต่ไม่น้อยกว่าชั้นละ 1 เครื่อง
4.ติดตั้งระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้ทุกชั้น ให้คนอยู่ในอาคารได้ยินชัดเจน และอุปกรณ์แจ้งเตือนทั้งระบบแจ้งเหตุอัตโนมัติและระบบแจ้งเหตุด้วยมือ
5.ติดตั้งระบบไฟส่องสว่างสำรอง และป้ายบอกทางหนีไฟ เพื่อให้มีแสงสว่าง สามารถมองเห็นช่องทางเดินได้ขณะเกิดไฟ
6.ติดตั้งระบบป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า ตามมาตรฐานความปลอดภัย
ทั้งนี้ กทม.อยู่ระหว่างดำเนินมาตรการสุ่มตรวจอาคารทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ โดยจะดำเนินการอย่างเข้มข้นกับกลุ่มอาคารเก่าที่ก่อสร้างก่อนปี 2535 โดยจะมีการสุ่มตรวจระบบความปลอดภัยดังกล่าวให้ครอบคลุมมากที่สุด หากพบมีข้อปฏิบัติใดๆ ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย กทม.จะสั่งให้เร่งทำการปรับปรุงแก้ไข ภายใน 30 วัน จากนั้นจะเข้าทำการตรวจซ้ำ โดยหากพบยังไม่มีการแก้ไขตามกำหนด จะต้องเข้าสู่กระบวนการเอาผิดตามกฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร โดยมีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 60,000 บาท และปรับต่อเนื่องอีกวันละ 10,000 บาท จนกว่าจะมีการแก้ไขเสร็จ และหากการแก้ไขไม่ถูกต้อง กทม.จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดโดยการสั่งระงับใช้อาคารนั้นต่อไป