พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณี กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) ได้ตรวจสอบพบพิรุธเกี่ยวการยื่นเอกสารการประมูลขายทอดตลาดรถยนต์ทหารของ ขส.ทบ.ที่มีบางคนไปยื่นให้ไว้กับกรมขนส่งทางบก จึงได้มีประสานกรมขนส่งทางบก เพื่อขอตรวจสอบอย่างละเอียด ในเอกสารบัญชีรถประมูลขายทอดตลาดในส่วนของ ขส.ทบ.ทุกฉบับ ที่ได้มีการมายื่นไว้ให้กับกรมขนส่งทางบกจะโดยบุคคลใดก็ตาม เมื่อขอดูแล้วจึงพบว่า มีเอกสารส่งบัญชีแจ้งการประมูลขายทอดตลาดรถยนต์ทหาร โดย ขส.ทบ.มีจำนวน 9 ฉบับ เป็นรถรวมทั้งสิ้น 1,136 คัน
พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบละเอียดแล้วพบว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารเท็จทั้งหมด รายละเอียดที่ระบุไว้ในเอกสาร เช่น หมายเลขเครื่อง หมายเลขตัวถัง ก็ไม่ใช่รถในอัตราของกองทัพบก การลงนามของผู้มีอำนาจตามหน้าที่ในเอกสารก็เป็นการปลอมแปลงขึ้นมาเอง ที่สำคัญในห้วงระยะเวลาดังกล่าว กองทัพบก โดย ขส.ทบ.ไม่ได้มีการประมูลรถขายทอดตลาดออกไปแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นเอกสารดังกล่าวทั้งหมดจึงเป็นเอกสารปลอมที่จัดทำขึ้นมาเอง
ขณะนี้ทาง ขส.ทบ.ได้ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องในทางวินัยขั้นร้ายแรงแล้ว โดยการเสนอให้ปลดออกจากราชการ ส่วนการนำเอกสารปลอมดังกล่าวไปเป็นองค์ประกอบ เพื่อใช้ยื่นขอจดทะเบียนให้กับรถยนต์คันใดที่อาจมีที่มาไม่ถูกต้องนั้น ทางกรมขนส่งทางบกคงจะได้ติดตามไปเพื่อขอเพิกถอนทะเบียนต่อไป
พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบละเอียดแล้วพบว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารเท็จทั้งหมด รายละเอียดที่ระบุไว้ในเอกสาร เช่น หมายเลขเครื่อง หมายเลขตัวถัง ก็ไม่ใช่รถในอัตราของกองทัพบก การลงนามของผู้มีอำนาจตามหน้าที่ในเอกสารก็เป็นการปลอมแปลงขึ้นมาเอง ที่สำคัญในห้วงระยะเวลาดังกล่าว กองทัพบก โดย ขส.ทบ.ไม่ได้มีการประมูลรถขายทอดตลาดออกไปแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นเอกสารดังกล่าวทั้งหมดจึงเป็นเอกสารปลอมที่จัดทำขึ้นมาเอง
ขณะนี้ทาง ขส.ทบ.ได้ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องในทางวินัยขั้นร้ายแรงแล้ว โดยการเสนอให้ปลดออกจากราชการ ส่วนการนำเอกสารปลอมดังกล่าวไปเป็นองค์ประกอบ เพื่อใช้ยื่นขอจดทะเบียนให้กับรถยนต์คันใดที่อาจมีที่มาไม่ถูกต้องนั้น ทางกรมขนส่งทางบกคงจะได้ติดตามไปเพื่อขอเพิกถอนทะเบียนต่อไป