นายอิทธิพล บุญอารีย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสนามบินเกาะสมุย เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการ ซ้อมแผนตอบโต้ ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ช่องทางเข้าออกประเทศท่าอากาศยานสมุย โดยมีคณะกรรมการกฎอนามัยระหว่างประเทศช่องทางเช้าออกท่าเรืออากาศยานสมุย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 32 หน่วยงานเข้าร่วมประชุม
ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสนามบินเกาะสมุย กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติการในการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน ทางด้านสาธารณสุขของช่องทางเข้าออกประเทศท่าอากาศยานสมุยให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการประสานแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน เมื่อต้องดำเนินมาตรการในภาวะฉุกเฉิน อีกทั้งสร้างความมั่นใจ ในมาตรการควบคุม ป้องกันโรคและภัยสุขภาพของประเทศไทย ให้แก่ผู้ประกอบการ ประชาชนโดยทั่วไป รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและช่าวต่างชาติ โดยในวันนี้มีการฝึกซ้อมแผนชนิดบนโต๊ะ เรื่องระบบบัญชาการ ระบบการสื่อสารในการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน และการรับ-ส่งต่อผู้ป่วยหรือผู้สงสัย กรณีโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง เพื่อรับมือเมื่อเกิดภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ทั้งนี้ มติคณะรัฐมนตรีได้ประกาศยอมรับการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ.2548 ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2560 โดยมีข้อกำหนดให้ช่องทางเข้าออกประเทศ ต้องได้รับการพัฒนาสมรรถนะหลักให้สามารถปฏิบัติตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการซ้อมแผนตอบโต้ ภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุข กรณีโรคติดต่อระหว่างประเทศ ที่กำหนดให้มีการซ้อมในทุกช่องทาง อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสนามบินเกาะสมุย กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติการในการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน ทางด้านสาธารณสุขของช่องทางเข้าออกประเทศท่าอากาศยานสมุยให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการประสานแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน เมื่อต้องดำเนินมาตรการในภาวะฉุกเฉิน อีกทั้งสร้างความมั่นใจ ในมาตรการควบคุม ป้องกันโรคและภัยสุขภาพของประเทศไทย ให้แก่ผู้ประกอบการ ประชาชนโดยทั่วไป รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและช่าวต่างชาติ โดยในวันนี้มีการฝึกซ้อมแผนชนิดบนโต๊ะ เรื่องระบบบัญชาการ ระบบการสื่อสารในการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน และการรับ-ส่งต่อผู้ป่วยหรือผู้สงสัย กรณีโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง เพื่อรับมือเมื่อเกิดภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ทั้งนี้ มติคณะรัฐมนตรีได้ประกาศยอมรับการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ.2548 ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2560 โดยมีข้อกำหนดให้ช่องทางเข้าออกประเทศ ต้องได้รับการพัฒนาสมรรถนะหลักให้สามารถปฏิบัติตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการซ้อมแผนตอบโต้ ภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุข กรณีโรคติดต่อระหว่างประเทศ ที่กำหนดให้มีการซ้อมในทุกช่องทาง อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
