นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ได้สั่งการให้ นางสุลีลา อ่อนอำไพ ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 8 ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุกรณี น.ส.ปัณฐิกา ตาสุวรรณ อายุ 23 ปี นิสิตคณะสัตวแพทยศาสตร์ ปีที่ 5 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พลัดตกบ่อบำบัดน้ำเสีย ภายในบริษัท ซีพีเอฟ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) จนเสียชีวิต พร้อมกับ นายพรศักดิ์ บุญบาล อายุ 40 ปี นายชาญชัย พันธุนาคิน อายุ 42 ปี น.ส.ลักษ์ชนก แสนทวีสุข อายุ 24 ปี และนายชาตรี สีสันดร พนักงานบริษัท ซีพีเอฟ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ที่เข้าไปช่วยเหลือ รวม 5 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา อย่างเร่งด่วน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และเร่งให้ความช่วยเหลือ
นายสุรเดช กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงาน ดังนั้นลูกจ้างที่เสียชีวิต 4 ราย มีสิทธิได้รับความคุ้มครองจากกองทุนเงินทดแทน ทายาทของลูกจ้างที่เสียชีวิตจะได้รับเงินทดแทน กรณีเสียชีวิตเนื่องจากการทำงาน ซึ่งจะได้เร่งประสานให้ทายาทของลูกจ้างที่เสียชีวิตติดต่อขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีเสียชีวิตได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 8 หรือติดต่อสำนักงานประกันสังคมที่สะดวก
สำหรับลูกจ้างผู้เสียชีวิตที่ได้รับสิทธิมีรายชื่อ ดังนี้
1.น.ส.ลักษ์ชนก แสนทวีสุข อายุ 24 ปี ตำแหน่งเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อม มีสิทธิได้รับเงินทดแทนกรณีเสียชีวิตเนื่องจากการทำงาน ได้รับ 60% ของฐานค่าจ้าง คือ 864,000 บาท ค่าทำศพ 31,000 บาท และเงินชราภาพกองทุนประกันสังคม 8,469.20 บาท รวมเป็นเงิน 903,469.20 บาท
2.นายพรศักดิ์ บุญบาล อายุ 40 ปี ตำแหน่งหัวหน้างานอนามัย มีสิทธิได้รับเงินทดแทนกรณีเสียชีวิตเนื่องจากการทำงาน ได้รับ 60% ของฐานค่าจ้าง คือ 621,200 บาท ค่าทำศพ 31,000 บาท และเงินชราภาพกองทุนประกันสังคม 84,420.71 บาท รวมเป็นเงิน 806,620.71 บาท
3. นายชาญชัย พันธุนาคิน อายุ 42 ปี ตำแหน่ง หัวหน้าหน่วยซ่อมบำรุง 1 มีสิทธิได้รับเงินทดแทนกรณีเสียชีวิตเนื่องจากการทำงาน ได้รับ 60% ของฐานค่าจ้าง คือ 864,000 บาท ค่าทำศพ 31,000 บาท และเงินชราภาพกองทุนประกันสังคม 148,187.40 บาท รวมเป็นเงิน 1,043,187.40 บาท
4.นายชาตรี สีสันดร อายุ 53 ปี ตำแหน่ง คนงานรายวันประจำ มีสิทธิได้รับเงินทดแทนกรณีเสียชีวิตเนื่องจากการทำงาน ได้รับ 60% ของฐานค่าจ้าง คือ 535,680 บาท ค่าทำศพ 31,000 บาท และเงินชราภาพกองทุนประกันสังคม 74,955.39 บาท รวมเป็นเงิน 641,635.39 บาท
นายสุรเดช กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงาน ดังนั้นลูกจ้างที่เสียชีวิต 4 ราย มีสิทธิได้รับความคุ้มครองจากกองทุนเงินทดแทน ทายาทของลูกจ้างที่เสียชีวิตจะได้รับเงินทดแทน กรณีเสียชีวิตเนื่องจากการทำงาน ซึ่งจะได้เร่งประสานให้ทายาทของลูกจ้างที่เสียชีวิตติดต่อขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีเสียชีวิตได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 8 หรือติดต่อสำนักงานประกันสังคมที่สะดวก
สำหรับลูกจ้างผู้เสียชีวิตที่ได้รับสิทธิมีรายชื่อ ดังนี้
1.น.ส.ลักษ์ชนก แสนทวีสุข อายุ 24 ปี ตำแหน่งเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อม มีสิทธิได้รับเงินทดแทนกรณีเสียชีวิตเนื่องจากการทำงาน ได้รับ 60% ของฐานค่าจ้าง คือ 864,000 บาท ค่าทำศพ 31,000 บาท และเงินชราภาพกองทุนประกันสังคม 8,469.20 บาท รวมเป็นเงิน 903,469.20 บาท
2.นายพรศักดิ์ บุญบาล อายุ 40 ปี ตำแหน่งหัวหน้างานอนามัย มีสิทธิได้รับเงินทดแทนกรณีเสียชีวิตเนื่องจากการทำงาน ได้รับ 60% ของฐานค่าจ้าง คือ 621,200 บาท ค่าทำศพ 31,000 บาท และเงินชราภาพกองทุนประกันสังคม 84,420.71 บาท รวมเป็นเงิน 806,620.71 บาท
3. นายชาญชัย พันธุนาคิน อายุ 42 ปี ตำแหน่ง หัวหน้าหน่วยซ่อมบำรุง 1 มีสิทธิได้รับเงินทดแทนกรณีเสียชีวิตเนื่องจากการทำงาน ได้รับ 60% ของฐานค่าจ้าง คือ 864,000 บาท ค่าทำศพ 31,000 บาท และเงินชราภาพกองทุนประกันสังคม 148,187.40 บาท รวมเป็นเงิน 1,043,187.40 บาท
4.นายชาตรี สีสันดร อายุ 53 ปี ตำแหน่ง คนงานรายวันประจำ มีสิทธิได้รับเงินทดแทนกรณีเสียชีวิตเนื่องจากการทำงาน ได้รับ 60% ของฐานค่าจ้าง คือ 535,680 บาท ค่าทำศพ 31,000 บาท และเงินชราภาพกองทุนประกันสังคม 74,955.39 บาท รวมเป็นเงิน 641,635.39 บาท
