ความคืบหน้ากรณีโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปคนขับรถยนต์โตโยต้ายาริส ใช้ไม้เบสบอลทุบรถยนต์กระบะของนายอนุสรณ์ เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกเฉี่ยวชนและขับไล่ชน จนทำให้รถกระบะเสียหลักพุ่งชนรถยนต์อีกคันหนึ่งที่จอดข้างทาง ทำให้ภรรยานายอนุสรณ์และลูกสาววัย 2 ขวบ ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ถนนเลียบคลองสอง เขตคลองสามวา จนเป็นที่วิจารณ์ในโลกออนไลน์นั้น วันนี้ (26 มิ.ย.) พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลคันนายาวได้เรียกคู่กรณี 3 ราย มาสอบปากคำ เพื่อซักถามข้อเท็จจริง ซึ่งมีเพียง นายอนุสรณ์ พร้อมครอบครัว และนางปิยะวรรณเดินทางมาให้ปากคำ
นายอนุสรณ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้กลับรถบริเวณหมู่บ้านวรารักษ์ ถนนเลียบคลองสอง โดยไม่ทราบว่าไปเฉี่ยวชนรถใครหรือไม่ จากนั้นได้ขับต่อไปประมาณ 500 เมตร รถโตโยต้ายาริสได้ขับปาดหน้า จากนั้นเห็นคนขับรถถือไม้เบสบอลมากระหน่ำทุบรถตามภาพกล้องหน้ารถ จึงตัดสินใจขับหนีแจ้งตำรวจ แต่คู่กรณีขับชนไล่ชน จนเสียหลักไปพุ่งชนใส่รถกระบะที่จอดอยู่ริมถนนอีกคัน ทำให้ภรรยาและลูกสาวได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นได้เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยที่สถานีตำรวจในช่วงเย็นวันเดียวกัน เพื่อลงบันทึกประจำวัน โดยมีการตกลงจะชดใช้ค่าเสียหายตามวงเงินประกันและความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง
ด้านพ.ต.อ.สิงห์ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวต้องวินิจฉัยเป็น 3 กรณี คือ ก่อนเกิดเหตุที่คนขับยาริสอ้างว่าถูกรถกระบะเฉี่ยวชนก่อน ต้องพิจารณาว่ามีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ หากผิดจริงคนขับรถกระบะจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร กรณีที่ 2 คือเหตุที่คนขับรถยาริสถือไม้เบสบอลลงมากระหน่ำตีรถ ซึ่งเข้าข่ายเป็นการทำให้เสียทรัพย์ และกรณีสุดท้ายคือเหตุที่คนขับรถยาริสขับรถชนใส่รถกระบะคู่กรณีจนไปพุ่งชนใส่รถที่จอดอยู่ข้างทาง ที่ต้องพิจารณาว่ากรณีดังกล่าวเป็นการทำโดยเจตนาหรือเกิดจากความประมาท
ส่วนนายนิอับดุลอาชิส ยังไม่ให้เข้ามาให้ปากคำกับตำรวจในวันนี้ ตำรวจจึงได้ทำหมายเรียกให้เข้ามาให้ปากคำในวันพุธที่ 28 มิถุนายน โดยระหว่างนี้จะเรียกสอบปากคำพยาน โดยเฉพาะคนขับรถส่งแก๊สที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต้นรวมถึงหลักฐานภาพวงจรปิดประกอบข้อเท็จจริง ในการดำเนินคดีเอาผิดผู้ก่อเหตุ
นายอนุสรณ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้กลับรถบริเวณหมู่บ้านวรารักษ์ ถนนเลียบคลองสอง โดยไม่ทราบว่าไปเฉี่ยวชนรถใครหรือไม่ จากนั้นได้ขับต่อไปประมาณ 500 เมตร รถโตโยต้ายาริสได้ขับปาดหน้า จากนั้นเห็นคนขับรถถือไม้เบสบอลมากระหน่ำทุบรถตามภาพกล้องหน้ารถ จึงตัดสินใจขับหนีแจ้งตำรวจ แต่คู่กรณีขับชนไล่ชน จนเสียหลักไปพุ่งชนใส่รถกระบะที่จอดอยู่ริมถนนอีกคัน ทำให้ภรรยาและลูกสาวได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นได้เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยที่สถานีตำรวจในช่วงเย็นวันเดียวกัน เพื่อลงบันทึกประจำวัน โดยมีการตกลงจะชดใช้ค่าเสียหายตามวงเงินประกันและความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง
ด้านพ.ต.อ.สิงห์ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวต้องวินิจฉัยเป็น 3 กรณี คือ ก่อนเกิดเหตุที่คนขับยาริสอ้างว่าถูกรถกระบะเฉี่ยวชนก่อน ต้องพิจารณาว่ามีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ หากผิดจริงคนขับรถกระบะจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร กรณีที่ 2 คือเหตุที่คนขับรถยาริสถือไม้เบสบอลลงมากระหน่ำตีรถ ซึ่งเข้าข่ายเป็นการทำให้เสียทรัพย์ และกรณีสุดท้ายคือเหตุที่คนขับรถยาริสขับรถชนใส่รถกระบะคู่กรณีจนไปพุ่งชนใส่รถที่จอดอยู่ข้างทาง ที่ต้องพิจารณาว่ากรณีดังกล่าวเป็นการทำโดยเจตนาหรือเกิดจากความประมาท
ส่วนนายนิอับดุลอาชิส ยังไม่ให้เข้ามาให้ปากคำกับตำรวจในวันนี้ ตำรวจจึงได้ทำหมายเรียกให้เข้ามาให้ปากคำในวันพุธที่ 28 มิถุนายน โดยระหว่างนี้จะเรียกสอบปากคำพยาน โดยเฉพาะคนขับรถส่งแก๊สที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต้นรวมถึงหลักฐานภาพวงจรปิดประกอบข้อเท็จจริง ในการดำเนินคดีเอาผิดผู้ก่อเหตุ
