นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการแก้ไขปัญหากรณีที่กลุ่มเจริญโภคภัณฑ์อาหาร (ซีพี) แหลมทอง และลีพัฒนา หยุดรับซื้อข้าวโพดจากเกษตรกร ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา ว่า ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ที่มีโรงงานผลิตอาหารสัตว์ตั้งอยู่ ทำการประสานโรงงานให้สลับกันปิด เพื่อให้มีโรงงานเปิดรับซื้อข้าวโพดจากเกษตรกรอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเป็นช่วงปลายฤดูการผลิต และผลผลิตมีจำนวนไม่มาก แต่จำเป็นต้องให้มีโรงงานรองรับ เพราะยังมีผลผลิตตกค้างอยู่บางส่วน
ทั้งนี้ เท่าที่ตรวจสอบ ซีพีได้หยุดรับซื้อในโรงงานบางแห่ง ทำให้โรงงานแหลมทองและโรงงานลีพัฒนาหยุดซื้อด้วย โดยให้เหตุผลของการปรับปรุงเครื่องจักรตามแผน เพราะผลผลิตช่วงนี้มีน้อย ขณะที่เบทาโกร ซึ่งเป็นรายใหญ่ ยังรับซื้อปกติ แต่กระทรวงพาณิชย์เห็นว่าแม้จะเป็นช่วงปลายฤดู แต่ผลผลิตยังมีตกค้างอยู่ จำเป็นต้องเร่งให้โรงงานเปิดรับซื้อต่อเนื่อง โดยราคาล่าสุดอยู่ที่กิโลกรัมละ 8.40-8.50 บาท
สำหรับโรงงานที่กระทรวงพาณิชย์สั่งการให้ประสานให้เปิดรับซื้อผลผลิตข้าวโพด ได้แก่ จ.ลำพูน พิษณุโลก ลพบุรี สระบุรี เพชรบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี สงขลา กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา สมุทรสาคร ปทุมธานี ราชบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม และอุบลราชธานี
อย่างไรก็ตาม จากการประสานให้โรงงานอาหารสัตว์เปิดรับซื้อผลผลิตข้าวโพดจากเกษตรกร จะทำให้เกษตรกรที่ยังไม่ได้ขายผลผลิต สามารถขายผลผลิตได้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะมีการติดตามและตรวจสอบอย่างใกล้ชิดต่อไป
ทั้งนี้ เท่าที่ตรวจสอบ ซีพีได้หยุดรับซื้อในโรงงานบางแห่ง ทำให้โรงงานแหลมทองและโรงงานลีพัฒนาหยุดซื้อด้วย โดยให้เหตุผลของการปรับปรุงเครื่องจักรตามแผน เพราะผลผลิตช่วงนี้มีน้อย ขณะที่เบทาโกร ซึ่งเป็นรายใหญ่ ยังรับซื้อปกติ แต่กระทรวงพาณิชย์เห็นว่าแม้จะเป็นช่วงปลายฤดู แต่ผลผลิตยังมีตกค้างอยู่ จำเป็นต้องเร่งให้โรงงานเปิดรับซื้อต่อเนื่อง โดยราคาล่าสุดอยู่ที่กิโลกรัมละ 8.40-8.50 บาท
สำหรับโรงงานที่กระทรวงพาณิชย์สั่งการให้ประสานให้เปิดรับซื้อผลผลิตข้าวโพด ได้แก่ จ.ลำพูน พิษณุโลก ลพบุรี สระบุรี เพชรบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี สงขลา กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา สมุทรสาคร ปทุมธานี ราชบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม และอุบลราชธานี
อย่างไรก็ตาม จากการประสานให้โรงงานอาหารสัตว์เปิดรับซื้อผลผลิตข้าวโพดจากเกษตรกร จะทำให้เกษตรกรที่ยังไม่ได้ขายผลผลิต สามารถขายผลผลิตได้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะมีการติดตามและตรวจสอบอย่างใกล้ชิดต่อไป
