พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เป็นประธานเปิดงานสัมมนาผู้ลงทุนสถาบันในตลาดทุนระดับชาติ (Thailand’s Big Strategic Move) ซึ่งมีนายสมคิดจาตุ ศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการการกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และผู้ลงทุนสถาบันไทยและต่างประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาครัฐมีนโนบายและทิศทางยกระดับเศรษฐกิจแก่ผู้ลงทุนและกองทุนต่างชาติ ซึ่งรัฐบาลได้วางยุทธศาสตร์ 20 ปี เพื่อพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน พร้อมขอนักธุรกิจรีบตัดสินใจในการลงทุนธุรกิจต่างๆ ในประเทศ
ทั้งนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลนี้ทำ รัฐบาลใหม่มาต้องสานต่อในเรื่องนี้ และที่ผ่านมารัฐบาลออกกฏหมายสำคัญจำนวนมากโดยเฉพาะการเอื้อประโยชน์แก่นักธุรกิจ อีกทั้งได้พัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันทางเศรษฐกิจ และสังคมให้มีการอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 60 มีแนวโน้มขยายตัวขึ้นร้อยละ 3.3-3.8 จากเดิมอัตราร้อยละ 3.2 ตลอดจนกำหนดหลักเกณฑ์การลงทุนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี และสร้างการรับรู้เรื่องไทยแลนด์ 4.0 ให้กับประชาชนเพื่อเดินหน้าไปด้วยกันทั้งคนในประเทศและนอกประเทศ
อย่างไรก็ดี แนวทางของข้าราชการและประชาชนต้องคิดแบบ 4.0 และจะคิดแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือ คนที่ต้องมีความที่หลากหลายสร้างสรรค์ และไม่มองข้างใดข้างหนึ่ง เบื้องต้นมอบให้กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงแรงงานผลิตคนเพื่อสอดคล้องความต้องการของประเทศ อีกทั้งต้องหาวิธีการให้คนมีหลักคิดที่ถูกต้อง เพราะจะเกิดการบิดเบือนกันไป และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน หากคิดเพียงแต่กฏหมายอย่างเดียวไม่ได้ เนื่องจากคำนึงถึงความเหลื่อมล้ำ สร้างความไว้เชื่อใจ และลดความหวาดระแวง
ส่วนเรื่องการเมือง ต้องเดินหน้าแก้ไขการเมืองตามโรดแมป และเศรษฐกิจเดินหน้าอย่างไม่หยุดให้เกิดความยั่งยืน โดยตลอด 3 ปีที่ผ่านมารัฐบาลเดินหน้าประเทศเพื่อคนไทยและต่างชาติ แต่ขอเวลาเพียงแค่นี้ตามโรดแมปเท่านั้น และเตรียมการส่งมอบให้กับรัฐบาลต่อไปให้เร็วที่สุดขออย่าไปกังวลในเรื่องนี้หรือว่าจะให้ส่งมอบในวันนี้เลย ส่วนการปฏิรูปประเทศนั้นได้เริ่มต้นแก้ไขในทุกด้าน แต่ประชาชนต้องการให้เสร็จทันที เพราะคนไทยใจร้อน ซึ่งตนไม่เข้าใจว่า ทำวันนี้จะสามารถทำเสร็จได้เลยหรือไม่ ดังนั้นต้องสร้างรากฐานให้เข้มแข็งควบคู่กับการสร้างความเข้าใจให้นักลงทุน ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันเจตนารมย์ทุกอย่างให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด และขอขอบคุณทุกประเทศที่เชื่อมั่นในประเทศไทยแบบนี้ตลอดไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาครัฐมีนโนบายและทิศทางยกระดับเศรษฐกิจแก่ผู้ลงทุนและกองทุนต่างชาติ ซึ่งรัฐบาลได้วางยุทธศาสตร์ 20 ปี เพื่อพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน พร้อมขอนักธุรกิจรีบตัดสินใจในการลงทุนธุรกิจต่างๆ ในประเทศ
ทั้งนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลนี้ทำ รัฐบาลใหม่มาต้องสานต่อในเรื่องนี้ และที่ผ่านมารัฐบาลออกกฏหมายสำคัญจำนวนมากโดยเฉพาะการเอื้อประโยชน์แก่นักธุรกิจ อีกทั้งได้พัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันทางเศรษฐกิจ และสังคมให้มีการอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 60 มีแนวโน้มขยายตัวขึ้นร้อยละ 3.3-3.8 จากเดิมอัตราร้อยละ 3.2 ตลอดจนกำหนดหลักเกณฑ์การลงทุนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี และสร้างการรับรู้เรื่องไทยแลนด์ 4.0 ให้กับประชาชนเพื่อเดินหน้าไปด้วยกันทั้งคนในประเทศและนอกประเทศ
อย่างไรก็ดี แนวทางของข้าราชการและประชาชนต้องคิดแบบ 4.0 และจะคิดแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือ คนที่ต้องมีความที่หลากหลายสร้างสรรค์ และไม่มองข้างใดข้างหนึ่ง เบื้องต้นมอบให้กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงแรงงานผลิตคนเพื่อสอดคล้องความต้องการของประเทศ อีกทั้งต้องหาวิธีการให้คนมีหลักคิดที่ถูกต้อง เพราะจะเกิดการบิดเบือนกันไป และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน หากคิดเพียงแต่กฏหมายอย่างเดียวไม่ได้ เนื่องจากคำนึงถึงความเหลื่อมล้ำ สร้างความไว้เชื่อใจ และลดความหวาดระแวง
ส่วนเรื่องการเมือง ต้องเดินหน้าแก้ไขการเมืองตามโรดแมป และเศรษฐกิจเดินหน้าอย่างไม่หยุดให้เกิดความยั่งยืน โดยตลอด 3 ปีที่ผ่านมารัฐบาลเดินหน้าประเทศเพื่อคนไทยและต่างชาติ แต่ขอเวลาเพียงแค่นี้ตามโรดแมปเท่านั้น และเตรียมการส่งมอบให้กับรัฐบาลต่อไปให้เร็วที่สุดขออย่าไปกังวลในเรื่องนี้หรือว่าจะให้ส่งมอบในวันนี้เลย ส่วนการปฏิรูปประเทศนั้นได้เริ่มต้นแก้ไขในทุกด้าน แต่ประชาชนต้องการให้เสร็จทันที เพราะคนไทยใจร้อน ซึ่งตนไม่เข้าใจว่า ทำวันนี้จะสามารถทำเสร็จได้เลยหรือไม่ ดังนั้นต้องสร้างรากฐานให้เข้มแข็งควบคู่กับการสร้างความเข้าใจให้นักลงทุน ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันเจตนารมย์ทุกอย่างให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด และขอขอบคุณทุกประเทศที่เชื่อมั่นในประเทศไทยแบบนี้ตลอดไป