xs
xsm
sm
md
lg

ทอท.เตรียมเปิดประมูลพื้นที่พาณิชย์สุวรรณภูมิ หวังดันสัดส่วนรายได้ปี 64 เป็น 50%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิราวไตรมาส 4/60 และสรุปผลต้นปี 2561 ทั้งพื้นที่เชิงพาณิชย์เดิมที่กลุ่มคิงเพาเวอร์รับสัมปทาน 2.5 แสนตารางเมตร ซึ่งจะหมดอายุสัมปทานในเดือนกันยายน 2563 และพื้นที่ใหม่ในอาคารแซทเทิลไลท์อีกอย่างน้อย 1 หมื่นตารางเมตร จากพื้นที่ทั้งหมด 2.1-2.2 หมื่นตารางเมตร

ขณะเดียวกัน ท่าอากาศยานดอนเมืองอยู่ระหว่างการเปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ในอาคารระหว่างประเทศ ซึ่งจะยื่นซองประมูลในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้

ทั้งนี้ ในงวดปี 2560 ทอท.มีรายได้จากพื้นที่เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นมากว่า 1.5 พันล้านบาท โดยมาจากท่าอากาศยานดอนเมือง ประมาณ 1 พันล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ 357.97 ล้านบาท และจากท่าอากาศยานภูเก็ตที่คาดว่าจะมีรายได้ประดันขั้นต่ำ 500 ล้านบาท จากเดิมไม่มีรายได้จากพื้นที่เชิงพาณิชย์เลย ดังนั้น หลังจากขยายพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯ คาดว่าในงวดปี 2564 (ต.ค.63-ก.ย.64) บริษัทจะมีรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจกรรมการบิน (Non-Aero) เพิ่มขึ้น และมีสัดส่วนสูงขึ้นเป็นร้อยละ 50 ตามแผนงานที่วางไว้ จากปัจจุบัน (เดือน มี.ค.60) สัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 43

ขณะที่การเดินหน้าพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ หรือ แปลง 37 ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่มีพื้นที่ราว 600-700 ไร่ ต้องรอผลการหารือกับกรมธนารักษ์เกี่ยวกับผลประโยชน์ตอบแทนเสียก่อน โดยคาดว่าจะสรุปได้ในเดือนกันยายนนี้ หากกรมธนารักษ์จัดเก็บในอัตราที่คุ้มค่าการลงทุนของ ทอท. ก็จะตัดสินใจดำเนินการ

ส่วนการดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 โครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ และโครงการพัฒนาท่าอากาศยานหาดใหญ่ จะเร่งดำเนินการให้เร็วขึ้น 1-2 เดือน โดยจะทยอยนำเสนอโครงการเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการบริษัทฯ ให้ได้หมดภายในสิ้นปี 2560

นอกจากนี้ ยังคาดว่า แนวโน้มผลประกอบการในครึ่งหลังปี 2560 (เม.ย.-ก.ย.60) น่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากจำนวนยอดผู้โดยสารในช่วง 9 เดือนของปี 2560 (ต.ค.59-มิ.ย.60) เติบโตร้อยละ 7.0-7.3 สูงกว่าเป้าหมายยอดจำนวนผู้โดยสารทั้งปีที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโตร้อยละ 7
กำลังโหลดความคิดเห็น