บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง วันนี้ (10 มิ.ย.) ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 220 ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง
นางสาวสมใจ อุดมศรี อายุ 54 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนโคกสีวิทยาสรรค์ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร นำคณะครูรวม 6 คนเดินทางมาสักการะพระบรมศพ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ กล่าวว่า เนื่องจากพาครูมารับรางวัลเป็นกล้องโทรทรรศน์ ที่บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร แถวรังสิต เพื่อนำไปเป็นอุปกรณ์สอนนักเรียนด้านดาราศาสตร์ จำนวน 2 เครื่อง จึงถือโอกาสนี้มาสักการะพระบรมศพด้วย ซึ่งคณะของตัวเองเพิ่งมาเป็นครั้งแรก จากนั้นช่วงบ่ายจะเดินทางไปยังมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง จ.ชลบุรี เพื่อศึกษาศาสตร์ของพระราชาด้านต่างๆ เช่น การแกล้งดิน ฝนหลวง โครงการแก้มลิง เกษตรทฤษฎีใหม่ และเศรษฐกิจพอเพียง นำเป็นองค์ความรู้ไปต่อยอดสร้างศูนย์การเรียนรู้ศาสตร์พระราชาในโรงเรียน พร้อมเปิดโอกาสให้ชาวบ้านในชุมชมมาเยี่ยมชมและนำความรู้ไปปฏิบัติ
ผู้อำนวยการโรงเรียนโคกสีวิทยาสรรค์ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวรักและประทับใจในหลวง ร.9 ในเรื่องของการทรงงาน ทำงานด้วยใจ และไม่เกรงกลัวต่ออุปสรรคเหมือนพระมหาชนก ซึ่งได้ยึดพระองค์เป็นแบบอย่าง น้อมนำมาปฏิบัติ และถ่ายทอดกับครูทุกคน ในฐานะเป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติหน้าที่ที่จำเป็นอย่างมาก คือการพัฒนานักเรียน ประการแรกคือ ต้องให้นักเรียนรู้จักพัฒนาตนเอง ประการที่สองคือ ต้องเข้าถึงใจนักเรียน พระองค์เคยมีรับสั่งว่า "เป็นครูต้องสร้างคนดีให้บ้านเมือง"
นางบอย นุชตาล อายุ 53 ปี อาชีพกิจการส่วนตัว ประชาชนจาก อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เดินทางมาพร้อมลูกหลานและญาติด้วยรถยนต์ส่วนตัว 10 คน มาถึงจุดรอคิวเพื่อเข้ากราบพระบรมศพราวๆ 8 โมงเช้า และได้เข้ากราบพระบรมศพ 10 โมง เปิดเผยว่า ติดตามงานพระราชพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวาย ร.9 มาตลอด เห็นได้ว่ามีประชาชนมากราบพระองค์ด้วยความรักจำนวนมาก โดยตนและครอบครัวมีโอกาสมาครั้งแรก เป็นความปลาบปลื้มใจที่ได้มากราบพระองค์อย่างใกล้ชิด
"คิดว่าตัวเองมีบุญมากที่ได้มาถึงพระบรมมหาราชวัง และได้เข้ากราบในหลวง ร.9 เบื้องหน้าพระบรมโกศ ในชีวิตก็ได้น้อมนำสิ่งที่พระองค์ทำมาตลอดทั้งในเรื่องของความพอเพียง และประหยัด ก็จะทำให้เราดำเนินชีวิตอย่างไม่เดือดร้อน" นายบอย กล่าว
นางสาวสมใจ อุดมศรี อายุ 54 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนโคกสีวิทยาสรรค์ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร นำคณะครูรวม 6 คนเดินทางมาสักการะพระบรมศพ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ กล่าวว่า เนื่องจากพาครูมารับรางวัลเป็นกล้องโทรทรรศน์ ที่บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร แถวรังสิต เพื่อนำไปเป็นอุปกรณ์สอนนักเรียนด้านดาราศาสตร์ จำนวน 2 เครื่อง จึงถือโอกาสนี้มาสักการะพระบรมศพด้วย ซึ่งคณะของตัวเองเพิ่งมาเป็นครั้งแรก จากนั้นช่วงบ่ายจะเดินทางไปยังมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง จ.ชลบุรี เพื่อศึกษาศาสตร์ของพระราชาด้านต่างๆ เช่น การแกล้งดิน ฝนหลวง โครงการแก้มลิง เกษตรทฤษฎีใหม่ และเศรษฐกิจพอเพียง นำเป็นองค์ความรู้ไปต่อยอดสร้างศูนย์การเรียนรู้ศาสตร์พระราชาในโรงเรียน พร้อมเปิดโอกาสให้ชาวบ้านในชุมชมมาเยี่ยมชมและนำความรู้ไปปฏิบัติ
ผู้อำนวยการโรงเรียนโคกสีวิทยาสรรค์ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวรักและประทับใจในหลวง ร.9 ในเรื่องของการทรงงาน ทำงานด้วยใจ และไม่เกรงกลัวต่ออุปสรรคเหมือนพระมหาชนก ซึ่งได้ยึดพระองค์เป็นแบบอย่าง น้อมนำมาปฏิบัติ และถ่ายทอดกับครูทุกคน ในฐานะเป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติหน้าที่ที่จำเป็นอย่างมาก คือการพัฒนานักเรียน ประการแรกคือ ต้องให้นักเรียนรู้จักพัฒนาตนเอง ประการที่สองคือ ต้องเข้าถึงใจนักเรียน พระองค์เคยมีรับสั่งว่า "เป็นครูต้องสร้างคนดีให้บ้านเมือง"
นางบอย นุชตาล อายุ 53 ปี อาชีพกิจการส่วนตัว ประชาชนจาก อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เดินทางมาพร้อมลูกหลานและญาติด้วยรถยนต์ส่วนตัว 10 คน มาถึงจุดรอคิวเพื่อเข้ากราบพระบรมศพราวๆ 8 โมงเช้า และได้เข้ากราบพระบรมศพ 10 โมง เปิดเผยว่า ติดตามงานพระราชพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวาย ร.9 มาตลอด เห็นได้ว่ามีประชาชนมากราบพระองค์ด้วยความรักจำนวนมาก โดยตนและครอบครัวมีโอกาสมาครั้งแรก เป็นความปลาบปลื้มใจที่ได้มากราบพระองค์อย่างใกล้ชิด
"คิดว่าตัวเองมีบุญมากที่ได้มาถึงพระบรมมหาราชวัง และได้เข้ากราบในหลวง ร.9 เบื้องหน้าพระบรมโกศ ในชีวิตก็ได้น้อมนำสิ่งที่พระองค์ทำมาตลอดทั้งในเรื่องของความพอเพียง และประหยัด ก็จะทำให้เราดำเนินชีวิตอย่างไม่เดือดร้อน" นายบอย กล่าว