วันนี้ (7 มิ.ย.) นายเรวัต ประสงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมติดตามการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย หลังจากมีน้ำท่วมขังนาข้าวกว่า 3 หมื่นไร่ สามารถช่วยเหลือได้แล้ว เหลือกว่า 9,000 ไร่
นายเรวัต เปิดเผยว่า ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้มีน้ำท่วมขังนาข้าวรวม 9 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอบางซ้าย บางบาล บางปะอิน ผักไห่ มหาราช เสนา บ้านแพรก บางไทร ลาดบัวหลวง และมีน้ำท่วมนาข้าวได้รับผลกระทบกว่า 30,000 ไร่ ให้ความช่วยเหลือไปแล้วเหลือ 9,000 ไร่ ล่าสุด ทางจังหวัดฯ ได้ประกาศให้อำเภอเสนา บ้านแพรก บางไทร เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัยแล้ว ส่วนอำเภออื่น ๆ ให้เร่งส่งข้อมูลการได้รับผลกระทบ พร้อมขอความช่วยเหลือมายังจังหวัดภายในวันนี้ เพื่อพิจารณาประกาศเป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัยในลำดับต่อไป
พร้อมกันนี้ เสนอให้ชลประทานลดการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ แล้วเพิ่มการระบายน้ำที่เขื่อนพระรามหกจาก 111 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และผันน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยามาลงคลองชัยนาท-ป่าสัก เพิ่มเติม จากนั้นจะปล่อยน้ำลงมาจากเขื่อนเจ้าพระยา 550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ก็จะลดภาวะน้ำล้นตลิ่ง และน้ำในทุ่งนา ให้ไหลสะดวกยิ่งขึ้น
รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีหนังสือสั่งการจากกระทรวงมหาดไทย รวมถึงมีหนังสือสั่งการตามระเบียบ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัย ท้องถิ่นสามารถช่วยเหลือได้ทันที และหากมีอำเภอใดที่จะให้จังหวัดประกาศเพิ่มเติมอีก ให้รีบแจ้ง รวมทั้งให้สำรวจว่าอำเภอใดต้องการเครื่องสูบน้ำหรือขอความช่วยเหลือ ให้แจ้ง ปภ.เขตโดยด่วน เพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็ว
นายเรวัต เปิดเผยว่า ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้มีน้ำท่วมขังนาข้าวรวม 9 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอบางซ้าย บางบาล บางปะอิน ผักไห่ มหาราช เสนา บ้านแพรก บางไทร ลาดบัวหลวง และมีน้ำท่วมนาข้าวได้รับผลกระทบกว่า 30,000 ไร่ ให้ความช่วยเหลือไปแล้วเหลือ 9,000 ไร่ ล่าสุด ทางจังหวัดฯ ได้ประกาศให้อำเภอเสนา บ้านแพรก บางไทร เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัยแล้ว ส่วนอำเภออื่น ๆ ให้เร่งส่งข้อมูลการได้รับผลกระทบ พร้อมขอความช่วยเหลือมายังจังหวัดภายในวันนี้ เพื่อพิจารณาประกาศเป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัยในลำดับต่อไป
พร้อมกันนี้ เสนอให้ชลประทานลดการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ แล้วเพิ่มการระบายน้ำที่เขื่อนพระรามหกจาก 111 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และผันน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยามาลงคลองชัยนาท-ป่าสัก เพิ่มเติม จากนั้นจะปล่อยน้ำลงมาจากเขื่อนเจ้าพระยา 550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ก็จะลดภาวะน้ำล้นตลิ่ง และน้ำในทุ่งนา ให้ไหลสะดวกยิ่งขึ้น
รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีหนังสือสั่งการจากกระทรวงมหาดไทย รวมถึงมีหนังสือสั่งการตามระเบียบ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัย ท้องถิ่นสามารถช่วยเหลือได้ทันที และหากมีอำเภอใดที่จะให้จังหวัดประกาศเพิ่มเติมอีก ให้รีบแจ้ง รวมทั้งให้สำรวจว่าอำเภอใดต้องการเครื่องสูบน้ำหรือขอความช่วยเหลือ ให้แจ้ง ปภ.เขตโดยด่วน เพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็ว