นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ได้ประสาน 3 จังหวัดภาคใต้ รวม 9 อำเภอ ประกอบด้วย ระนอง จำนวน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองระนอง อำเภอละอุ่น และอำเภอกะเปอร์ พังงา 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท้ายเหมือง อำเภอตะกั่วป่า และอำเภอคุระบุรี ชุมพร 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหลังสวน อำเภอพะโต๊ะ และอำเภอละแม เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดดินถล่ม ดินไหล และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ เพิ่มความถี่ในการตรวจวัดปริมาณฝน จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย และติดตั้งป้ายเตือนบริเวณพื้นที่ที่เคยเกิดดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์ภัยในช่วงฝนตกหนัก กรณีมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ปริมาณน้ำฝนสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตรต่อวัน ให้พิจารณาอพยพประชาชนไปยังสถานที่ปลอดภัย หรือจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว พร้อมดำเนินการตามขั้นตอนของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ หากสถานการณ์รุนแรงเกินศักยภาพ ให้รายงานกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 3 จังหวัดดังกล่าว ติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด โดยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 3 จังหวัดดังกล่าว ติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด โดยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง