วันนี้ 2 มิ.ย.60 ด้วยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชอนุสรณ์คำนึงถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระบรมชนกนาถ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเจริญพระพุทธมนต์ถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระสยามเทวาธิราช และถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาตคญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นำพระสงฆ์ 175 รูป นำเจริญพระพุทธมนต์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ไปในพิธี ณ ลานพระราชวังดุสิต ในวันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2560 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป
ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้อัญเชิญ พระพุทธนิรันตราย พระพุทธรูปปางสมาธิ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์สำคัญที่ปัจจุบันนี้ประดิษฐานอยู่ที่หอพระสุราลัยพิมาน หมู่พระมหามณเฑียร พระบรมมหาราชวัง มาประดิษฐานเป็นพระประธานในพิธี เพื่อให้ประชาชนได้สักการะอันจะเป็นมงคลแก่ชีวิต ประเทศชาติ และสืบสานพระราชปณิธาน "ธรรมราชินี" ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ทั้งนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพิมพ์หนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์ขึ้นใหม่ จากเดิมมีบทสวดมนต์ 28 บท ทรงให้เพิ่มเติมบทสวดมนต์อีกจำนวน 9 บท รวมเป็น 37 บท โดยพระราชทานหนังสือสวดมนต์นี้ให้แก่ผู้มาเข้าร่วมพิธี กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แลักรุงเทพมหานคร รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ นำไปมอบให้แก่ประชาชน นักเรียน นักศึกษา อย่างทั่วถึง เพื่อร่วมในการสวดมนต์ในพิธีมหามงคลนี้พร้อมกันทั่วทุกภูมิภาค ทั้งนี้ประชาชนทั่วไปสามารถดาวน์โหลดหนังสือสวดมนต์ได้ที่เว็บไซต์ http://www.prd.go.th
สำหรับหนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์ทั้ง 37 บท ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณให้เชิญอักษรพระปรมาภิไธย ว.ป.ร.และภาพวาดฝีพระหัตถ์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลงพิมพ์บนหน้าปกหนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ มาไว้บนหน้าปกของหนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมพระราชทานข้อความฝีพระหัตถ์ด้านล่างพระบรมฉายาลักษณ์ พระฉายาลักษณ์ว่า "สุขกาย สุขใจ" อีกทั้งทรงคัดเลือกและทรงเรียบเรียงบทเจริญพระพุทธมนต์นี้พร้อมคำแปลด้วยพระองค์เอง เพื่อพระราชทานในพิธีมหามงคลในครั้งนี้
ทั้งนี้ทรงน้อมนำและสืบสานพระราชปณิธาน “ธรรมราชินี” ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชีนาถ มาไว้ที่หน้าปกบทเจริญพระพุทธมนต์ด้วยทรงปรารถนาที่จะให้ประชาชนได้สวดมนต์ เพื่อก่อให้เกิดสติ สมาธิ ปัญญา รวมทั้งความสุขสงบร่มเย็น และเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และชาติบ้านเมืองสืบไป
ส่วนด้านหลังปกบทเจริญพุทธมนต์นั้นได้พระราชทานพระมหากรุณาธิคุณให้เชิญอักษรพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. มาไว้ด้านบกปกหลัง พร้อมข้อความว่า "ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเพื่อความเป็นสิริมงคล และความสุขของทุกท่านผู้มีศรัทธาบำเพ็ญธรรม" พระที่นั่งอัมพรสถาน 9 มิถุนายน 2560
อีกหนึ่งความพิเศษของพิธีมหากุศลในครั้งนี้คือประชาชนที่มาร่วมในพิธีจะมีโอกาสได้กราบสักการะขอพรพระนิรันตราย อันเป็นพระพุทธรูปโบราณอย่างใกล้ชิด ซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้นั้นเป็นพระพุทธรูปโบราณสององค์ซ้อนกัน องค์ใน เป็นพระพุทธรูปที่กำนันอินและนายยังบุตรชาย ขุดพบเมื่อปีมะโรง พ.ศ. 2399 ที่ชายป่าแขวงเมืองปราจีนบุรี ห่างจากดงศรีมหาโพธิ์ประมาณสามเส้น (ปัจจุบันคือโบราณสถานหมายเลข ๓ ซึ่งเรียกว่าเนินภูเขาทองในเขตโบราณสถานศรีมโหสถ) ในขณะที่กำลังขุดมันนกกันอยู่ โดยก่อนหน้านั้นฝันว่า จับช้างเผือกได้เป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยทองคำเนื้อหก น้ำหนักเจ็ดตำลึงสิบเอ็ดสลึง พุทธศิลปะแบบทวารวดี จึงให้พระเกรียงไกรกระบวนยุทธ์ ปลัดเมืองฉะเชิงเทรา พาเข้ามา ณ กรุงเทพฯ เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ในวันพระฤกษ์เฉลิมพระราชมณเฑียรสีตลาภิรมย์ องค์นอก พระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิเพชรต้องตามพุทธลักษณะหน้าตักห้านิ้วกึ่ง หล่อด้วยทองคำ สวมครอบพระพุทธรูปนิรันตรายไว้อีกชั้นหนึ่งไม่มีซุ้มเรือนแก้วเป็นพุ่มพระมหาโพธิ์อยู่เบื้องหลัง
โดยในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระนิรันตรายทองคำประดิษฐานในพระแท่นมณฑลในพระราชพิธีต่าง ๆ เช่น พระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์ ( ทำบุญตรุษ ) พระราชพิธีสงกรานต์ ปัจจุบัน เจ้าพนักงานภูษามาลายังรักษาแบบแผนโบราณราชประเพณีโดยอัญเชิญพระนิรันตรายไปตั้งในพระราชพิธีสำคัญ เช่น ในการบำเพ็ญพระราชกุศลวันเฉลิมพระชนมพรรษา และการพระราชกุศลที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัด ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ เป็นต้น
ซึ่งปัจจุบันนี้พระนิรันตรายประดิษฐานอยู่ที่หอพระสุราลัยพิมาน หมู่พระมหามณเฑียร พระบรมมหาราชวัง และจะได้มีการอัญเชิญออกมาจากพระบรมมหาราชวังเพื่อมาให้ประชาชนได้กราบสักการะอย่างใกล้ชิดอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2560 ณ ลานพระราชวังดุสิต
พระบรมราชชนนี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเจริญพระพุทธมนต์ถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระสยามเทวาธิราช และถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาตคญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นำพระสงฆ์ 175 รูป นำเจริญพระพุทธมนต์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ไปในพิธี ณ ลานพระราชวังดุสิต ในวันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2560 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป
ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้อัญเชิญ พระพุทธนิรันตราย พระพุทธรูปปางสมาธิ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์สำคัญที่ปัจจุบันนี้ประดิษฐานอยู่ที่หอพระสุราลัยพิมาน หมู่พระมหามณเฑียร พระบรมมหาราชวัง มาประดิษฐานเป็นพระประธานในพิธี เพื่อให้ประชาชนได้สักการะอันจะเป็นมงคลแก่ชีวิต ประเทศชาติ และสืบสานพระราชปณิธาน "ธรรมราชินี" ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ทั้งนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพิมพ์หนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์ขึ้นใหม่ จากเดิมมีบทสวดมนต์ 28 บท ทรงให้เพิ่มเติมบทสวดมนต์อีกจำนวน 9 บท รวมเป็น 37 บท โดยพระราชทานหนังสือสวดมนต์นี้ให้แก่ผู้มาเข้าร่วมพิธี กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แลักรุงเทพมหานคร รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ นำไปมอบให้แก่ประชาชน นักเรียน นักศึกษา อย่างทั่วถึง เพื่อร่วมในการสวดมนต์ในพิธีมหามงคลนี้พร้อมกันทั่วทุกภูมิภาค ทั้งนี้ประชาชนทั่วไปสามารถดาวน์โหลดหนังสือสวดมนต์ได้ที่เว็บไซต์ http://www.prd.go.th
สำหรับหนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์ทั้ง 37 บท ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณให้เชิญอักษรพระปรมาภิไธย ว.ป.ร.และภาพวาดฝีพระหัตถ์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลงพิมพ์บนหน้าปกหนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ มาไว้บนหน้าปกของหนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมพระราชทานข้อความฝีพระหัตถ์ด้านล่างพระบรมฉายาลักษณ์ พระฉายาลักษณ์ว่า "สุขกาย สุขใจ" อีกทั้งทรงคัดเลือกและทรงเรียบเรียงบทเจริญพระพุทธมนต์นี้พร้อมคำแปลด้วยพระองค์เอง เพื่อพระราชทานในพิธีมหามงคลในครั้งนี้
ทั้งนี้ทรงน้อมนำและสืบสานพระราชปณิธาน “ธรรมราชินี” ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชีนาถ มาไว้ที่หน้าปกบทเจริญพระพุทธมนต์ด้วยทรงปรารถนาที่จะให้ประชาชนได้สวดมนต์ เพื่อก่อให้เกิดสติ สมาธิ ปัญญา รวมทั้งความสุขสงบร่มเย็น และเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และชาติบ้านเมืองสืบไป
ส่วนด้านหลังปกบทเจริญพุทธมนต์นั้นได้พระราชทานพระมหากรุณาธิคุณให้เชิญอักษรพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. มาไว้ด้านบกปกหลัง พร้อมข้อความว่า "ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเพื่อความเป็นสิริมงคล และความสุขของทุกท่านผู้มีศรัทธาบำเพ็ญธรรม" พระที่นั่งอัมพรสถาน 9 มิถุนายน 2560
อีกหนึ่งความพิเศษของพิธีมหากุศลในครั้งนี้คือประชาชนที่มาร่วมในพิธีจะมีโอกาสได้กราบสักการะขอพรพระนิรันตราย อันเป็นพระพุทธรูปโบราณอย่างใกล้ชิด ซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้นั้นเป็นพระพุทธรูปโบราณสององค์ซ้อนกัน องค์ใน เป็นพระพุทธรูปที่กำนันอินและนายยังบุตรชาย ขุดพบเมื่อปีมะโรง พ.ศ. 2399 ที่ชายป่าแขวงเมืองปราจีนบุรี ห่างจากดงศรีมหาโพธิ์ประมาณสามเส้น (ปัจจุบันคือโบราณสถานหมายเลข ๓ ซึ่งเรียกว่าเนินภูเขาทองในเขตโบราณสถานศรีมโหสถ) ในขณะที่กำลังขุดมันนกกันอยู่ โดยก่อนหน้านั้นฝันว่า จับช้างเผือกได้เป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยทองคำเนื้อหก น้ำหนักเจ็ดตำลึงสิบเอ็ดสลึง พุทธศิลปะแบบทวารวดี จึงให้พระเกรียงไกรกระบวนยุทธ์ ปลัดเมืองฉะเชิงเทรา พาเข้ามา ณ กรุงเทพฯ เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ในวันพระฤกษ์เฉลิมพระราชมณเฑียรสีตลาภิรมย์ องค์นอก พระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิเพชรต้องตามพุทธลักษณะหน้าตักห้านิ้วกึ่ง หล่อด้วยทองคำ สวมครอบพระพุทธรูปนิรันตรายไว้อีกชั้นหนึ่งไม่มีซุ้มเรือนแก้วเป็นพุ่มพระมหาโพธิ์อยู่เบื้องหลัง
โดยในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระนิรันตรายทองคำประดิษฐานในพระแท่นมณฑลในพระราชพิธีต่าง ๆ เช่น พระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์ ( ทำบุญตรุษ ) พระราชพิธีสงกรานต์ ปัจจุบัน เจ้าพนักงานภูษามาลายังรักษาแบบแผนโบราณราชประเพณีโดยอัญเชิญพระนิรันตรายไปตั้งในพระราชพิธีสำคัญ เช่น ในการบำเพ็ญพระราชกุศลวันเฉลิมพระชนมพรรษา และการพระราชกุศลที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัด ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ เป็นต้น
ซึ่งปัจจุบันนี้พระนิรันตรายประดิษฐานอยู่ที่หอพระสุราลัยพิมาน หมู่พระมหามณเฑียร พระบรมมหาราชวัง และจะได้มีการอัญเชิญออกมาจากพระบรมมหาราชวังเพื่อมาให้ประชาชนได้กราบสักการะอย่างใกล้ชิดอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2560 ณ ลานพระราชวังดุสิต