วันนี้ (26 พ.ค.) นางทิชา ณ นคร อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและเยาวชน พร้อมด้วยนายเตชาติ์ มีชัย ผู้ประสานงานเครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน และตัวแทนองค์กรด้านเด็กและเยาวชน 13 องค์กร ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของกระบวนการสอบข้อเท็จจริงและการดำเนินคดีค้าประเวณีเด็ก จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมขอให้เดินหน้านโยบายขจัดค่านิยมเลี้ยงดูปูเสื่อให้เป็นรูปธรรม
นางทิชา กล่าวว่า จากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และได้สั่งยุติกระบวนการตรวจสอบ พร้อมให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม ทำให้เกิดความเคลือบแคลง อย่างไรก็ตาม แม้ไม่มีหลักฐานเอาผิดผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด และประธานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในระดับจังหวัด ย่อมมีหน้าที่สอดส่องป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่กลับละเลยให้มีกระบวนการค้าประเวณีเด็กในพื้นที่หรือไม่
ทั้งนี้ จึงขอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาดำเนินการ 4 ข้อ คือ 1. ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับคดีค้าประเวณีเด็กและค้ามนุษย์ใน จ.แม่ฮ่องสอน เป็นคดีพิเศษ 2.ให้ตรวจสอบความโปร่งใสของกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงมหาดไทย และเอาผิดกับผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนฐาน ละเลยการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ 3.ให้มีการตรวจสอบและหาคนรับผิดชอบกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำภาพพยานผู้เสียหายมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน รวมถึงให้มีมาตรการดูแลคุ้มครองพยาน และ 4. ให้กวดขันนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการขจัดค่านิยมเลี้ยงดูปูเสื่อ หรือจัดหาผู้หญิงเด็กเพื่อมาบริการให้แก่ข้าราชการ
นางทิชา กล่าวว่า จากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และได้สั่งยุติกระบวนการตรวจสอบ พร้อมให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม ทำให้เกิดความเคลือบแคลง อย่างไรก็ตาม แม้ไม่มีหลักฐานเอาผิดผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด และประธานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในระดับจังหวัด ย่อมมีหน้าที่สอดส่องป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่กลับละเลยให้มีกระบวนการค้าประเวณีเด็กในพื้นที่หรือไม่
ทั้งนี้ จึงขอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาดำเนินการ 4 ข้อ คือ 1. ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับคดีค้าประเวณีเด็กและค้ามนุษย์ใน จ.แม่ฮ่องสอน เป็นคดีพิเศษ 2.ให้ตรวจสอบความโปร่งใสของกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงมหาดไทย และเอาผิดกับผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนฐาน ละเลยการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ 3.ให้มีการตรวจสอบและหาคนรับผิดชอบกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำภาพพยานผู้เสียหายมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน รวมถึงให้มีมาตรการดูแลคุ้มครองพยาน และ 4. ให้กวดขันนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการขจัดค่านิยมเลี้ยงดูปูเสื่อ หรือจัดหาผู้หญิงเด็กเพื่อมาบริการให้แก่ข้าราชการ