นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลาก และน้ำเอ่อล้นตลิ่ง โดยมีพื้นที่เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 15 จังหวัด รวม 52 อำเภอ 176 ตำบล 989 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 21,059 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 5 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 13 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์น้ำไหลหลากในพื้นที่ภาคเหนือ 2 จังหวัด 9 อำเภอ 57 ตำบล 406 หมู่บ้าน ได้แก่ สุโขทัย และ ลำปาง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว พร้อมเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 25 – 28 พฤษภาคมนี้ ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ในระยะแรกเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ จากนั้นภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ส่วนภาคตะวันออกและภาคใต้ จะมีฝนตกต่อเนื่องตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่
ทั้งนี้ จึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 25 – 28 พฤษภาคมนี้ ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ในระยะแรกเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ จากนั้นภาคตะวันออก ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ส่วนภาคตะวันออกและภาคใต้ จะมีฝนตกต่อเนื่องตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่
ทั้งนี้ จึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง