นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยความคืบหน้างานก่อสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ว่า ภาพรวมความคืบหน้าโครงสร้างหลักของพระเมรุมาศ ขณะนี้อยู่ที่ร้อยละ 95-97 ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 2-3 จะเก็บไว้เป็นการเพิ่มเติมส่วนต่างๆ ของโครงสร้างพระเมรุมาศ
ส่วนงานด้านสถาปัตยกรรมมีการฉลุไม้ที่ชั้นชาลาชั้นที่ 1 พระเมรุมาศ และติดนั่งร้าน เพื่อจะประดับตกแต่งบุษบกยอดและเรือนยอด
ส่วนงานประติมากรรมประดับพระเมรุมาศ เทวดานั่งอัญเชิญฉัตรและอัญเชิญบังแทรก 32 องค์ ทำพิมพ์และเจียนสีแล้ว 4 องค์ เทวดายืนอัญเชิญฉัตรและอัญเชิญพุ่ม 12 องค์ อยู่ระหว่างปั้นแต่งเก็บรายละเอียดต้นแบบ มหาเทพพระอิศวรและพระอินทร์ อยู่ระหว่างการแก้รายละเอียดเครื่องทรง ส่วนพระนารายณ์และพระพรหมอยู่ระหว่างการเขียนสี
ด้านงานจิตรกรรมฉากบังเพลิงได้มีการลงสีบรรยากาศเสร็จแล้วอยู่ในขั้นเก็บรายละเอียดภาพพระนารายณ์อวตารปางต่างๆ และเทพชุมนุม
ส่วนโครงการพระราชดำริ ดิน น้ำ ลม ไฟ อยู่ระหว่างการเขียนรายละเอียด ด้านพระที่นั่งทรงธรรม ความคืบหน้าโครงสร้างอยู่ที่ร้อยละ 97- 98 งานสถาปัตยกรรมการมุงหลังคาคืบหน้าไปร้อยละ 70 และขณะนี้มีการปูพื้นเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ในอาคารหลัก 2 อาคาร คือพระเมรุมาศ และพระที่นั่งทรงธรรม ภาพรวมทั้งหมด ขณะนี้มีความคืบหน้าร้อยละ 50 ส่วนอาคารประกอบอื่นๆ ที่ใช้ในงานพระราชพิธี โครงสร้างเกือบจะสมบูรณ์แล้ว
นอกจากนี้ งานด้านการปรับภูมิทัศน์ก็เริ่มดำเนินการแล้วซึ่งจะปรับระดับดิน โดยนำดินมาถมให้ทางทิศใต้มีดินระดับที่เท่ากัน ทั้งนี้ สภาพอากาศที่เข้าสู่ฤดูฝน นายอนันต์ กล่าวว่า ไม่เป็นปัญหาต่อการปฏิบัติงาน เพราะในบางอาคารมีการมุงหลังคาเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้มีการวางแผนเพื่อรับมือกับอุปสรรคเมื่อฝนตกในส่วนของพระเมรุมาศ แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีผลกระทบเนื่องจากยังไม่มีฝนตกติดต่อกันหลายวัน แต่หากเข้าสู่กระบวนการประดับตกแต่งแล้วอาจจะมีการนำพลาสติกมาหุ้มเพื่อป้องกันกรณีที่ฝนตก ซึ่งตอนนี้จะเร่งทำงานอย่างเร็วที่สุดเพราะยังไม่มีอุปสรรคใด
นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมระบบระบายน้ำไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับในกรณีเกิดฝนตกและน้ำท่วมขัง ยืนยันว่าจะไม่เป็นปัญหาในกรณีที่จะมีการปรับภูมิทัศน์และนำต้นไม้มาลงโดยรอบพระเมรุมาศ
ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานอาหารมื้อเย็นทุกวัน 500 กล่อง แก่ข้าราชการเจ้าหน้าที่จิตอาสาผู้ปฏิบัติงานก่อสร้างพระเมรุมาศ ทั้งในพื้นที่ท้องสนามหลวงและสำนักช่างสิบหมู่ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ส่วนงานด้านสถาปัตยกรรมมีการฉลุไม้ที่ชั้นชาลาชั้นที่ 1 พระเมรุมาศ และติดนั่งร้าน เพื่อจะประดับตกแต่งบุษบกยอดและเรือนยอด
ส่วนงานประติมากรรมประดับพระเมรุมาศ เทวดานั่งอัญเชิญฉัตรและอัญเชิญบังแทรก 32 องค์ ทำพิมพ์และเจียนสีแล้ว 4 องค์ เทวดายืนอัญเชิญฉัตรและอัญเชิญพุ่ม 12 องค์ อยู่ระหว่างปั้นแต่งเก็บรายละเอียดต้นแบบ มหาเทพพระอิศวรและพระอินทร์ อยู่ระหว่างการแก้รายละเอียดเครื่องทรง ส่วนพระนารายณ์และพระพรหมอยู่ระหว่างการเขียนสี
ด้านงานจิตรกรรมฉากบังเพลิงได้มีการลงสีบรรยากาศเสร็จแล้วอยู่ในขั้นเก็บรายละเอียดภาพพระนารายณ์อวตารปางต่างๆ และเทพชุมนุม
ส่วนโครงการพระราชดำริ ดิน น้ำ ลม ไฟ อยู่ระหว่างการเขียนรายละเอียด ด้านพระที่นั่งทรงธรรม ความคืบหน้าโครงสร้างอยู่ที่ร้อยละ 97- 98 งานสถาปัตยกรรมการมุงหลังคาคืบหน้าไปร้อยละ 70 และขณะนี้มีการปูพื้นเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ในอาคารหลัก 2 อาคาร คือพระเมรุมาศ และพระที่นั่งทรงธรรม ภาพรวมทั้งหมด ขณะนี้มีความคืบหน้าร้อยละ 50 ส่วนอาคารประกอบอื่นๆ ที่ใช้ในงานพระราชพิธี โครงสร้างเกือบจะสมบูรณ์แล้ว
นอกจากนี้ งานด้านการปรับภูมิทัศน์ก็เริ่มดำเนินการแล้วซึ่งจะปรับระดับดิน โดยนำดินมาถมให้ทางทิศใต้มีดินระดับที่เท่ากัน ทั้งนี้ สภาพอากาศที่เข้าสู่ฤดูฝน นายอนันต์ กล่าวว่า ไม่เป็นปัญหาต่อการปฏิบัติงาน เพราะในบางอาคารมีการมุงหลังคาเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้มีการวางแผนเพื่อรับมือกับอุปสรรคเมื่อฝนตกในส่วนของพระเมรุมาศ แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีผลกระทบเนื่องจากยังไม่มีฝนตกติดต่อกันหลายวัน แต่หากเข้าสู่กระบวนการประดับตกแต่งแล้วอาจจะมีการนำพลาสติกมาหุ้มเพื่อป้องกันกรณีที่ฝนตก ซึ่งตอนนี้จะเร่งทำงานอย่างเร็วที่สุดเพราะยังไม่มีอุปสรรคใด
นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมระบบระบายน้ำไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับในกรณีเกิดฝนตกและน้ำท่วมขัง ยืนยันว่าจะไม่เป็นปัญหาในกรณีที่จะมีการปรับภูมิทัศน์และนำต้นไม้มาลงโดยรอบพระเมรุมาศ
ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานอาหารมื้อเย็นทุกวัน 500 กล่อง แก่ข้าราชการเจ้าหน้าที่จิตอาสาผู้ปฏิบัติงานก่อสร้างพระเมรุมาศ ทั้งในพื้นที่ท้องสนามหลวงและสำนักช่างสิบหมู่ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้