วันนี้ (23 พ.ค.) พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบยอดการลงทะเบียนรับสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย (มีรายได้ 2,400 บาท/เดือน หรือ รายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี) ซึ่งปิดลงทะเบียนไปแล้วเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมาว่า มีจำนวน 14 ล้านคน มากกว่าปีที่แล้วที่มาลงทะเบียน 8 ล้านคน โดยในจำนวน 14 ล้านคนที่มาลงทะเบียนในปีนี้ เป็นเกษตรกร 4.6 ล้านคน แสดงให้เห็นว่าผู้มีรายได้น้อยไม่ได้มีแต่ในภาคการเกษตรเพียงอย่างเดียว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ปรารภในที่ประชุม ครม.ว่า มีนักการเมืองพยายามบิดเบือนให้สังคมทราบว่ารัฐบาลบริหารงานตั้งแต่โครงการแรกมาถึงโครงการที่ 2 ไม่ทันจะครบขวบปีแรกมาจบขวบปีที่สองตัวเลขผู้มีรายได้น้อยมีจำนวนพุ่งสูงจาก 8 ล้านคนเป็น 14 ล้านคน ซึ่งนายกรัฐบมนตรีได้ตรวจสอบตัวเลขจากทางสภาพัฒน์และหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ ก็พบว่าตัวเลขอยู่ในเกณฑ์ 13-14 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ตั้งเป้ากันไว้
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ในโครงการแรกที่มีผู้มาลงทะเบียนรับสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยแค่ 8 ล้านคน เป็นไปได้ว่ามีผู้พยายามบิดเบือนข้อมูลว่าลงทะเบียนแล้วจะเป็นการแบ่งชนชั้น หรืออย่าไปลงนะ ถ้าลงแล้วรัฐบาลจะมาล้วงความลับ มาดึงเงิน จะมาไล่บี้เก็บภาษี ดังนั้นตัวเลข 14 ล้านคนที่มาลงทะเบียนในครั้งนี้จึงสะท้อนความเป็นจริง และอีกปัจจัยที่ทำให้คนเชื่อมั่นและมาลงทะเบียนกันมาก เป็นเพราะการประชาสัมพันธ์ที่ค่อนข้างกว้างขวาง และประชาชนเห็นการช่วยเหลือของรัฐบาลในโครงการแรกแล้วว่ารัฐบาลดูแลช่วยเหลือประชาชนจริง
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ปรารภในที่ประชุม ครม.ว่า มีนักการเมืองพยายามบิดเบือนให้สังคมทราบว่ารัฐบาลบริหารงานตั้งแต่โครงการแรกมาถึงโครงการที่ 2 ไม่ทันจะครบขวบปีแรกมาจบขวบปีที่สองตัวเลขผู้มีรายได้น้อยมีจำนวนพุ่งสูงจาก 8 ล้านคนเป็น 14 ล้านคน ซึ่งนายกรัฐบมนตรีได้ตรวจสอบตัวเลขจากทางสภาพัฒน์และหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ ก็พบว่าตัวเลขอยู่ในเกณฑ์ 13-14 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ตั้งเป้ากันไว้
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ในโครงการแรกที่มีผู้มาลงทะเบียนรับสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยแค่ 8 ล้านคน เป็นไปได้ว่ามีผู้พยายามบิดเบือนข้อมูลว่าลงทะเบียนแล้วจะเป็นการแบ่งชนชั้น หรืออย่าไปลงนะ ถ้าลงแล้วรัฐบาลจะมาล้วงความลับ มาดึงเงิน จะมาไล่บี้เก็บภาษี ดังนั้นตัวเลข 14 ล้านคนที่มาลงทะเบียนในครั้งนี้จึงสะท้อนความเป็นจริง และอีกปัจจัยที่ทำให้คนเชื่อมั่นและมาลงทะเบียนกันมาก เป็นเพราะการประชาสัมพันธ์ที่ค่อนข้างกว้างขวาง และประชาชนเห็นการช่วยเหลือของรัฐบาลในโครงการแรกแล้วว่ารัฐบาลดูแลช่วยเหลือประชาชนจริง