นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA กล่าวว่า ที่ดินแพงที่สุดสิ้นปี 2559 คือ บริเวณสยามสแควร์ 2 ล้านบาทต่อตารางวา หรือไร่ละ 800 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปี 2560 จะปรับขึ้นอีกร้อยละ 6.5 มาอยู่ที่ตารางวาละ 2.13 ล้านบาท เพราะอยู่ใจกลางเมืองมีสาธารณูปโภคโดยเฉพาะรถไฟฟ้า ทำให้การคมนาคมสะดวกเหมาะเป็นแหล่งจับจ่ายและสำนักงาน จึงมีราคาสูงขึ้นตลอดเวลา แม้จะไม่ได้มีการพัฒนาอะไรใหม่
รองลงมาคือ ที่ดินบริเวณสีลม คาดว่าสิ้นปี 2560 ตารางวาละ 1.77 ล้านบาท และเยาวราช จะอยู่ที่ตารางวาละ 1.3 ล้านบาท หากเปิดใช้รถไฟฟ้าเพื่อข้ามไปฝั่งธนจะทำให้ราคาที่ดินเยาวราชเพิ่มอีกร้อยละ 5 ส่วนราคาที่ดินถูกที่สุด คือ บริเวณคลอง 13 ลำลูกกา ตารางวาละ 2,300 บาท หรือไร่ละ 0.92 ล้านบาท เนื่องจากไม่มีโครงการสาธารณูปโภคและไม่มีการพัฒนา คาดว่าในอนาคตอาจจะมีถนนวงแหวนรอบนอกหรือโครงการสาธารณูปอื่นๆ
ขณะที่ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นบริเวณอื่นๆ อันดับ 1 แนวเส้นรถไฟฟ้า MRT และแนวรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายตากสิน-บางหว้า ขยายตัวเท่ากันร้อยละ 8.9 จากเดิมแนวรถไฟฟ้า BTS จะขยายตัวสูงสุด เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่สำหรับพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ตลอดแนวรถไฟฟ้า BTS ค่อนข้างจำกัด จึงขยายมาที่แนวรถไฟฟ้า MRT มากขึ้น
นอกจากนี้ แนวรถไฟฟ้าสีม่วงช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ร้อยละ 7.3 และแนวแอร์พอร์ตลิงค์ร้อยละ 6.8 ส่วนราคาประเมินของราชการในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (2555-2559) แม้จะปรับขึ้นต่อเนื่อง แต่เป็นอัตราต่ำกว่าการปรับขึ้นของราคาตลาด และไม่ส่งผลต่อราคาที่อยู่อาศัยแต่อย่างใด
ทั้งนี้ มองว่าราคาที่ดินแพงที่สุดและถูกที่สุดปีนี้ห่างกันถึง 926 เท่า แม้จะมีระยะทางห่างกันเพียง 50 กิโลเมตร สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาเมืองไม่เท่ากัน หากไม่มีการเก็บภาษีที่ดีจะทำให้ผู้มีรายได้สูงเสียหายภาษีน้อยหรือผู้ที่อยู่ในเมืองได้รับยกเว้นภาษีมากเป็นพิเศษ ควรจะมีการพิจารณาจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้เหมาะสมและนำที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของราชการมาเก็บภาษีด้วย เพื่อความเท่าเทียมกัน ถ้ายังไม่เร่งแก้ปัญหาคนที่อยู่นอกเมืองอาจจะควบรวมที่ดินรอบนอก เพื่อสร้างเป็นเมืองใหม่ เพราะราคาที่ดินยังถูก สำหรับส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยเงินฝากกับดอกเบี้ยเงินกู้ที่ห่างกันถึง 5 เท่ายังเป็นอุปสรรคสำคัญในการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้ระดับปานกลาง
รองลงมาคือ ที่ดินบริเวณสีลม คาดว่าสิ้นปี 2560 ตารางวาละ 1.77 ล้านบาท และเยาวราช จะอยู่ที่ตารางวาละ 1.3 ล้านบาท หากเปิดใช้รถไฟฟ้าเพื่อข้ามไปฝั่งธนจะทำให้ราคาที่ดินเยาวราชเพิ่มอีกร้อยละ 5 ส่วนราคาที่ดินถูกที่สุด คือ บริเวณคลอง 13 ลำลูกกา ตารางวาละ 2,300 บาท หรือไร่ละ 0.92 ล้านบาท เนื่องจากไม่มีโครงการสาธารณูปโภคและไม่มีการพัฒนา คาดว่าในอนาคตอาจจะมีถนนวงแหวนรอบนอกหรือโครงการสาธารณูปอื่นๆ
ขณะที่ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นบริเวณอื่นๆ อันดับ 1 แนวเส้นรถไฟฟ้า MRT และแนวรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายตากสิน-บางหว้า ขยายตัวเท่ากันร้อยละ 8.9 จากเดิมแนวรถไฟฟ้า BTS จะขยายตัวสูงสุด เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่สำหรับพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ตลอดแนวรถไฟฟ้า BTS ค่อนข้างจำกัด จึงขยายมาที่แนวรถไฟฟ้า MRT มากขึ้น
นอกจากนี้ แนวรถไฟฟ้าสีม่วงช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ร้อยละ 7.3 และแนวแอร์พอร์ตลิงค์ร้อยละ 6.8 ส่วนราคาประเมินของราชการในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (2555-2559) แม้จะปรับขึ้นต่อเนื่อง แต่เป็นอัตราต่ำกว่าการปรับขึ้นของราคาตลาด และไม่ส่งผลต่อราคาที่อยู่อาศัยแต่อย่างใด
ทั้งนี้ มองว่าราคาที่ดินแพงที่สุดและถูกที่สุดปีนี้ห่างกันถึง 926 เท่า แม้จะมีระยะทางห่างกันเพียง 50 กิโลเมตร สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาเมืองไม่เท่ากัน หากไม่มีการเก็บภาษีที่ดีจะทำให้ผู้มีรายได้สูงเสียหายภาษีน้อยหรือผู้ที่อยู่ในเมืองได้รับยกเว้นภาษีมากเป็นพิเศษ ควรจะมีการพิจารณาจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้เหมาะสมและนำที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของราชการมาเก็บภาษีด้วย เพื่อความเท่าเทียมกัน ถ้ายังไม่เร่งแก้ปัญหาคนที่อยู่นอกเมืองอาจจะควบรวมที่ดินรอบนอก เพื่อสร้างเป็นเมืองใหม่ เพราะราคาที่ดินยังถูก สำหรับส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยเงินฝากกับดอกเบี้ยเงินกู้ที่ห่างกันถึง 5 เท่ายังเป็นอุปสรรคสำคัญในการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้ระดับปานกลาง