นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เปิดเผยโดยอ้างสำนักบริการสาธารณสุขแห่งชาติ หรือ NHS ว่า เกิดการโจมตีระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลอย่างน้อย 16 แห่งทั่วประเทศ แต่เบื้องต้นยังไม่พบหลักฐานบ่งชี้การเข้าถึงข้อมูลของผู้ป่วย นอกจากนี้ ยังมีหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีไซเบอร์เช่นกัน ได้แก่ ออสเตรเลีย เบลเยียม ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และเม็กซิโก
อย่างไรก็ตาม ศูนย์ดูแลความมั่นคงทางไซเบอร์แห่งชาติอังกฤษระบุว่า NHS ไม่ได้เป็นเป้าหมายการโจมตีโดยเฉพาะ แต่ก็ได้ทำงานประสานไปยังศูนย์ดิจิทัล NHS และตำรวจ เพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงและสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้แก่ผู้ป่วยแล้ว
ทั้งนี้ ภายหลังการโจมตีทางไซเบอร์เกิดขึ้นตามโรงพยาบาลหลายแห่งในอังกฤษ สื่อสังคมออนไลน์ก็ได้เผยแพร่ภาพจอคอมพิวเตอร์ของ NHS ซึ่งแสดงข้อความให้จ่ายเงินเป็นบิทคอย หรือสกุลเงินออนไลน์จำนวน 300 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 275 ยูโร และยังระบุว่า ไฟล์ในคอมพิวเตอร์ถูกเข้ารหัสแล้ว
วันเดียวกัน โฆษกกระทรวงกิจการภายในรัสเซีย แถลงว่า เกิดเหตุไวรัสโจมตีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลประมาณ 1,000 เครื่องของกระทรวงเช่นกัน ซึ่งคอมพิวเตอร์ดังกล่าวควบคุมโดยระบบปฏิบัติการวินโดว์ส แต่ยังไม่มีรายงานการรั่วไหลข้อมูล ขณะที่บริษัทเมกะโฟน ผู้ประกอบการด้านเทเลคอมของรัสเซียเปิดเผยว่า ทางบริษัทตกเป็นเหยื่อการโจมตีทางไซเบอร์ ส่งผลให้การทำงานของศูนย์บริการต่างๆ ต้องหยุดชะงัก ทางบริษัทจึงต้องปิดเครือข่ายระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดโดยทันที เพื่อป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์แพร่กระจาย
อย่างไรก็ตาม ศูนย์ดูแลความมั่นคงทางไซเบอร์แห่งชาติอังกฤษระบุว่า NHS ไม่ได้เป็นเป้าหมายการโจมตีโดยเฉพาะ แต่ก็ได้ทำงานประสานไปยังศูนย์ดิจิทัล NHS และตำรวจ เพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงและสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้แก่ผู้ป่วยแล้ว
ทั้งนี้ ภายหลังการโจมตีทางไซเบอร์เกิดขึ้นตามโรงพยาบาลหลายแห่งในอังกฤษ สื่อสังคมออนไลน์ก็ได้เผยแพร่ภาพจอคอมพิวเตอร์ของ NHS ซึ่งแสดงข้อความให้จ่ายเงินเป็นบิทคอย หรือสกุลเงินออนไลน์จำนวน 300 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 275 ยูโร และยังระบุว่า ไฟล์ในคอมพิวเตอร์ถูกเข้ารหัสแล้ว
วันเดียวกัน โฆษกกระทรวงกิจการภายในรัสเซีย แถลงว่า เกิดเหตุไวรัสโจมตีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลประมาณ 1,000 เครื่องของกระทรวงเช่นกัน ซึ่งคอมพิวเตอร์ดังกล่าวควบคุมโดยระบบปฏิบัติการวินโดว์ส แต่ยังไม่มีรายงานการรั่วไหลข้อมูล ขณะที่บริษัทเมกะโฟน ผู้ประกอบการด้านเทเลคอมของรัสเซียเปิดเผยว่า ทางบริษัทตกเป็นเหยื่อการโจมตีทางไซเบอร์ ส่งผลให้การทำงานของศูนย์บริการต่างๆ ต้องหยุดชะงัก ทางบริษัทจึงต้องปิดเครือข่ายระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดโดยทันที เพื่อป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์แพร่กระจาย