นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ได้วิจัยพันธุ์ข้าวใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับชาวนา รวมทั้งบริโภคที่ต้องการลดน้ำหนัก ควบคุมน้ำตาล
อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยประสบปัญหาโรคอ้วนตั้งแต่เป็นวัยรุ่น โดยมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารและสภาพแวดล้อมสังคมที่เปลี่ยนไป จึงได้ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ศึกษาดัชนีน้ำตาลในข้าวขัดขาวที่นิยมเพาะปลูกบริโภคในปัจจุบัน จำนวน 120 พันธุ์ โดยนำมาวิเคราะห์หาปริมาณน้ำตาลกลูโคสที่แตกตัวเร็วในข้าวสาร ซึ่งจะมีผลต่อปริมาณน้ำตาลในเลือด ได้กลุ่มพันธุ์ข้าวที่นิยมบริโภค ทั้งข้าวเจ้า และข้าวเหนียว ได้แก่ ข้าวดอกมะลิ 105 ข้าวเจ๊กเชย ปทุมธานี 1 กข6 กข43 และพิษณุโลก 80 แล้ววิเคราะห์ปริมาณน้ำตาลในเลือดหลังบริโภคตัวอย่างข้าวของผู้เข้ารับการทดลองในรูปแบบข้าวขัดขาว พบว่ าข้าวพันธุ์ กข43 มีค่าดัชนีน้ำตาล 57.5 ต่ำกว่าข้าวพันธุ์อื่นๆ รองลงมา คือ พันธุ์ข้าวพิษณุโลก 80 มีค่าดัชนีน้ำตาล 59.5 เมื่อรับประทานข้าวชนิดนี้แล้วย่อยออกมาร่างกายจะได้น้ำตาลน้อยแต่รู้สึกอิ่มได้นาน
ทั้งนี้ เหมาะสำหรับวัยรุ่นที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ทานแล้วไม่อ้วน และที่สำคัญคือบริโภคได้ง่ายกว่าข้าวกล้อง โดยข้าวพันธุ์ กข43 เป็นข้าวที่พัฒนาพันธุ์ระหว่างพันธุ์ข้าวเจ้าหอมสุพรรณบุรี และสุพรรณบุรี 1 ค่อนข้างต้านทานต่อโรคไหม้และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ได้รับรองพันธุ์แล้วปี 2552 ปัจจุบันนี้ปลูกมากใน จ.สุพรรณบุรี และชัยนาท ด้วยคุณสมบัติเป็นข้าวเจ้าที่หอม นุ่ม น่ารับประทาน และมีดัชนีน้ำตาลต่ำกว่าข้าวพันธุ์อื่นๆ จึงมีแผนจะผลักดันพื้นที่ปลูกข้าว กข43 เข้าโครงการนาแปลงใหญ่ เพื่อรองรับความต้องการของตลาด โดยขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้คนไทยการบริโภคข้าวเพื่อสุขภาพ ซึ่งทุกหน่วยงานยังได้บูรณาการเพื่อส่งเสริมให้ชาวนาปลูกข้าวที่มีคุณภาพมีมาตรฐานปลอดภัยต่อผู้บริโภค
อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยประสบปัญหาโรคอ้วนตั้งแต่เป็นวัยรุ่น โดยมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารและสภาพแวดล้อมสังคมที่เปลี่ยนไป จึงได้ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ศึกษาดัชนีน้ำตาลในข้าวขัดขาวที่นิยมเพาะปลูกบริโภคในปัจจุบัน จำนวน 120 พันธุ์ โดยนำมาวิเคราะห์หาปริมาณน้ำตาลกลูโคสที่แตกตัวเร็วในข้าวสาร ซึ่งจะมีผลต่อปริมาณน้ำตาลในเลือด ได้กลุ่มพันธุ์ข้าวที่นิยมบริโภค ทั้งข้าวเจ้า และข้าวเหนียว ได้แก่ ข้าวดอกมะลิ 105 ข้าวเจ๊กเชย ปทุมธานี 1 กข6 กข43 และพิษณุโลก 80 แล้ววิเคราะห์ปริมาณน้ำตาลในเลือดหลังบริโภคตัวอย่างข้าวของผู้เข้ารับการทดลองในรูปแบบข้าวขัดขาว พบว่ าข้าวพันธุ์ กข43 มีค่าดัชนีน้ำตาล 57.5 ต่ำกว่าข้าวพันธุ์อื่นๆ รองลงมา คือ พันธุ์ข้าวพิษณุโลก 80 มีค่าดัชนีน้ำตาล 59.5 เมื่อรับประทานข้าวชนิดนี้แล้วย่อยออกมาร่างกายจะได้น้ำตาลน้อยแต่รู้สึกอิ่มได้นาน
ทั้งนี้ เหมาะสำหรับวัยรุ่นที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ทานแล้วไม่อ้วน และที่สำคัญคือบริโภคได้ง่ายกว่าข้าวกล้อง โดยข้าวพันธุ์ กข43 เป็นข้าวที่พัฒนาพันธุ์ระหว่างพันธุ์ข้าวเจ้าหอมสุพรรณบุรี และสุพรรณบุรี 1 ค่อนข้างต้านทานต่อโรคไหม้และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ได้รับรองพันธุ์แล้วปี 2552 ปัจจุบันนี้ปลูกมากใน จ.สุพรรณบุรี และชัยนาท ด้วยคุณสมบัติเป็นข้าวเจ้าที่หอม นุ่ม น่ารับประทาน และมีดัชนีน้ำตาลต่ำกว่าข้าวพันธุ์อื่นๆ จึงมีแผนจะผลักดันพื้นที่ปลูกข้าว กข43 เข้าโครงการนาแปลงใหญ่ เพื่อรองรับความต้องการของตลาด โดยขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้คนไทยการบริโภคข้าวเพื่อสุขภาพ ซึ่งทุกหน่วยงานยังได้บูรณาการเพื่อส่งเสริมให้ชาวนาปลูกข้าวที่มีคุณภาพมีมาตรฐานปลอดภัยต่อผู้บริโภค