นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยขณะเป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาซื้อขายผลไม้ผ่านสัญญาข้อตกลงมาตรฐานของกรมการค้าภายใน ระหว่างกรมการค้าภายใน กับผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้จำนวน 24 ราย กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตผลไม้ปลอดภัยสารพิษเพื่อส่งออก และฝ่ายผู้ขาย 15 ราย ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมแผนการตลาดรองรับล่วงหน้า ผลไม้เศรษฐกิจสำคัญของไทย ที่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม - ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งที่ผ่านมากรมการค้าภายในและหน่วยงานกระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมแผนด้านการตลาดรองรับไว้ล่วงหน้า อาทิ เช่น การจัดหาสถานที่ให้เกษตรกรนำผลไม้มาจำหน่ายให้ผู้บริโภคโดยตรง การเชื่อมโยงกระจายผลไม้จากจังหวัดแหล่งผลิตไปยังจังหวัดปลายทางและประเทศติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน การนำผลไม้ไปแปรรูปเพื่อยืดอายุและเพิ่มมูลค่า
ปัจจุบันไทยมีมูลค่าการส่งออกผลไม้ถึง 1.2 ล้านตันต่อปี มูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท และในวันนี้ได้จัดหาตลาดให้เกษตรกรล่วงหน้าในลักษณะของตลาดข้อตกลง โดยลงนามสัญญาการซื้อขายกันรวมปริมาณ 3,830 ตัน มูลค่า 180 ล้านบาท ซึ่งตลาดข้อตกลงเป็นการซื้อขายสินค้าเกษตรที่มีข้อตกลงไว้ล่วงหน้าก่อนการเพาะปลูก ระหว่างเกษตรกรผู้ผลิตและผู้รับซื้อโดยมีการทำสัญญาข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรที่ระบุเงื่อนไขเกี่ยวกับการผลิต การตลาด การส่งมอบสินค้า การชำระเงิน จะสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรในการผลิต และลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา
ทางด้านนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน คาดว่าในปี 2560 ผลผลิตผลไม้ไทยจากเกษตร เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง มะม่วง มะพร้าว ชมพู่ กล้วย เป็นต้น ที่สามารถเพาะปลูกได้เกือบทุกจังหวัด โดยแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญในภาคตะวันออก ภาคเหนือ และภาคใต้ จะออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นร้อยละ 28 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งการซื้อขายผ่านตลาดข้อตกลงโดยใช้สัญญาข้อตกลงมาตรฐานของกรมการค้าภายในนั้นจะเกิดประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายเกษตรกร มีตลาดและรายได้ที่แน่นอน มีการพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพเพิ่มขึ้น
ปัจจุบันไทยมีมูลค่าการส่งออกผลไม้ถึง 1.2 ล้านตันต่อปี มูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท และในวันนี้ได้จัดหาตลาดให้เกษตรกรล่วงหน้าในลักษณะของตลาดข้อตกลง โดยลงนามสัญญาการซื้อขายกันรวมปริมาณ 3,830 ตัน มูลค่า 180 ล้านบาท ซึ่งตลาดข้อตกลงเป็นการซื้อขายสินค้าเกษตรที่มีข้อตกลงไว้ล่วงหน้าก่อนการเพาะปลูก ระหว่างเกษตรกรผู้ผลิตและผู้รับซื้อโดยมีการทำสัญญาข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรที่ระบุเงื่อนไขเกี่ยวกับการผลิต การตลาด การส่งมอบสินค้า การชำระเงิน จะสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรในการผลิต และลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา
ทางด้านนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน คาดว่าในปี 2560 ผลผลิตผลไม้ไทยจากเกษตร เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง มะม่วง มะพร้าว ชมพู่ กล้วย เป็นต้น ที่สามารถเพาะปลูกได้เกือบทุกจังหวัด โดยแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญในภาคตะวันออก ภาคเหนือ และภาคใต้ จะออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นร้อยละ 28 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งการซื้อขายผ่านตลาดข้อตกลงโดยใช้สัญญาข้อตกลงมาตรฐานของกรมการค้าภายในนั้นจะเกิดประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายเกษตรกร มีตลาดและรายได้ที่แน่นอน มีการพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพเพิ่มขึ้น