สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า กระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ รายงานสถานการณ์ตลาดแรงงานของประเทศในรอบเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ว่า อัตราว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 4.4 ลดลงร้อยละ 0.1 จากสถิติของเดือนมีนาคม ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 4.5 ถือเป็นสถิติต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2550 โดยเป็นผลจากการจำนวนการจ้างงานใหม่ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าจากสถิติอันย่ำแย่ในเดือนมีนาคม ขึ้นมาเป็น 211,000 อัตรา และส่วนใหญ่เป็นการจ้างงานในอุตสาหกรรมบริการ
ขณะที่ผู้สันทัดกรณีเชื่อว่า สถานการณ์ในตลาดแรงงานที่ดีขึ้นเช่นนี้น่าจะเพิ่มความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีการประชุมครั้งต่อไปในเดือนมิถุนายนนี้ เนื่องจากตลาดแรงงานที่มีแนวโน้มมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น น่าจะช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่สองของปีนี้กระเตื้องขึ้นจากไตรมาสแรก ซึ่งผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.7 ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2557
ขณะที่ผู้สันทัดกรณีเชื่อว่า สถานการณ์ในตลาดแรงงานที่ดีขึ้นเช่นนี้น่าจะเพิ่มความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีการประชุมครั้งต่อไปในเดือนมิถุนายนนี้ เนื่องจากตลาดแรงงานที่มีแนวโน้มมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น น่าจะช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่สองของปีนี้กระเตื้องขึ้นจากไตรมาสแรก ซึ่งผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.7 ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2557