สวนดุสิตโพลเผย ปชช.อยากให้นักการเมืองร่วมมือภาครัฐ สร้างความปรองดองก่อนเลือกตั้ง

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจากทั่วประเทศจำนวน 1,152 คน โดยภายหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560 กระแสข่าวการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นก็มีออกมาอย่างต่อเนื่อง แม้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการดำเนินงานของรัฐบาลตามโรดแมปที่ได้กำหนดไว้ รวมถึงล่าสุดที่มีข่าวออกมาว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นช้าสุดไม่เกินปลายปี 2561 ต่างเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของประชาชน

จากผลการสำรวจพบว่า ณ วันนี้ (ก่อนเลือกตั้ง) ประชาชนส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 71.61 อยากให้นักการเมืองให้ความร่วมมือกับภาครัฐ เสริมสร้างความปรองดอง เพราะทำให้บรรยากาศทางการเมืองดีขึ้น บ้านเมืองสงบ ใช้ประสบการณ์ทางการเมืองมาช่วยพัฒนาประเทศและส่วนรวม ร้อยละ 68.75 อยากให้นักการเมืองสนับสนุนให้การเลือกตั้งมีความโปร่งใส ยุติธรรม เพราะประชาชนจะได้เชื่อมั่น และอยากไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่จะมีขึ้น อยากเห็นบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย และร้อยละ 66.15 อยากให้นักการเมืองลงพื้นที่ พบปะ พูดคุยกับชาวบ้าน สอบถามสารทุกข์สุขดิบ เพราะอยากให้นักการเมืองลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชน รับฟังเรื่องราว ปัญหาความเดือดร้อนต่างๆ ด้วยตนเองเพื่อเป็นแนวทาง นโยบายในการหาเสียง

ขณะเดียวกัน ประชาชนร้อยละ 77.86 อยากให้พรรคการเมืองติดตามข้อมูลข่าวสาร ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการเลือกตั้งของรัฐบาล เพราะจะได้เตรียมความพร้อมก่อนที่จะเข้าสู่การแข่งขันเลือกตั้ง ทุกพรรคการเมืองจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของการเลือกตั้งให้มากยิ่งขึ้น ร้อยละ 74.74 อยากให้พรรคการเมืองสรรหาสมาชิกพรรคและกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะจะได้มีเวลาในการคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม มีความรู้ความสามารถมาเป็นสมาชิก ควรเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน และร้อยละ 69.79 อยากให้พรรคการเมืองกำหนดนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนจะใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับการเลือกตั้ง จะได้เห็นท่าทีและแนวโน้มการทำงานของแต่ละพรรคการเมืองว่ามีทิศทางอย่างไร

ส่วนสิ่งที่ตัวประชาชนเองจะสามารถทำได้ ณ วันนี้ (ก่อนเลือกตั้ง) ประชาชนร้อยละ 70.31 ระบุ จะทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด เคารพกฎหมาย ไม่สร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมือง เพราะที่ผ่านมาบ้านเมืองมีปัญหามากมาย ทุกคนควรช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบสุข คาดหวังว่าบ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหลังจากการเลือกตั้ง ร้อยละ 67.45 ระบุ จะศึกษาและรับฟังข้อมูลข่าวสารการเลือกตั้ง เพราะจะได้ไม่ตกข่าว มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ และเปรียบเทียบพรรคการเมือง/นักการเมืองของแต่ละพรรค ขณะที่ร้อยละ 53.65 ระบุ จะร่วมรณรงค์ให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง และให้ความร่วมมือกับภาครัฐ เพราะไม่อยากให้มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง อยากให้ทุกคนออกไปใช้สิทธิ์อย่างเต็มที่ เลือกคนดี คนเก่ง เข้ามาทำงาน พัฒนาบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้า