สำนักงานเลขานุการ กองทัพเรือ เผยแพร่เอกสารข่าวแจกจ่ายให้สื่อมวลชน ถึงความคืบหน้าโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ลำที่ 1 จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ระบุว่า กองทัพเรือได้รับแจ้งจากบริษัท China Shipbuilding & Offshore International Co.,Ltd. (CSOC) สาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า ได้ประสานงานกับรัฐบาลจีน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีน ในการจัดเตรียมเอกสารต่างๆ เรียบร้อยแล้ว และมีความพร้อมในการลงนามในข้อตกลงจ้างสร้างเรือดำน้ำ ลำที่ 1 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จึงมีความประสงค์ขอเชิญผู้แทนรัฐบาลไทยให้เกียรติไปเยือนจีน และลงนามในข้อตกลง
ดังนั้น การดำเนินการของกองทัพเรือ เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2560 พลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบหมายให้ พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ ลงนามในข้อตกลงจ้างสร้างเรือดำน้ำ ลำที่ 1 ในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล ในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน
ทั้งนี้ เสนาธิการทหารเรือและคณะได้เดินทางไปกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 4 – 7 พฤษภาคมนี้ และเมื่อทั้ง 2 ฝ่ายตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของเอกสารเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสามารถประกอบพิธีลงนามในข้อตกลง ณ อาคารรับรองรัฐบาล เตียวหยูไถ่ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน กับบริษัท CSOC ในฐานะผู้แทนรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ ภายในวันที่ 7 พฤษภาคม ซึ่งจะถือได้ว่ารัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน มีพันธกรณีต่อกันโดยสมบูรณ์ต่อไป
ดังนั้น การดำเนินการของกองทัพเรือ เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2560 พลเรือเอก ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบหมายให้ พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ ลงนามในข้อตกลงจ้างสร้างเรือดำน้ำ ลำที่ 1 ในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล ในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน
ทั้งนี้ เสนาธิการทหารเรือและคณะได้เดินทางไปกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 4 – 7 พฤษภาคมนี้ และเมื่อทั้ง 2 ฝ่ายตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของเอกสารเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสามารถประกอบพิธีลงนามในข้อตกลง ณ อาคารรับรองรัฐบาล เตียวหยูไถ่ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน กับบริษัท CSOC ในฐานะผู้แทนรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ ภายในวันที่ 7 พฤษภาคม ซึ่งจะถือได้ว่ารัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน มีพันธกรณีต่อกันโดยสมบูรณ์ต่อไป