พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการหารือเรื่องร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิเสรีภาพส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน แต่เป็นแนวคิดที่จะให้มีองค์กรดูแลสื่อมวลชน โดยให้ไปศึกษาจากต่างประเทศว่าควรจะทำอย่างไร ซึ่งไม่ได้โทษสื่อทั้งหมดแต่เป็นเรื่องของคนไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาโดยเฉพาะโซเชียลมีเดีย ยืนยันว่า ไม่ได้ปิดกั้น แต่ต้องช่วยกันหาทางออก เพราะสื่อเป็นของคนไทยทุกคนไม่ใช่เป็นสื่อของคนไม่ดี และอย่าอ้างรัฐธรรมนูญในเรื่องสิทธิเสรีภาพ เพราะรัฐธรรมนูญมี พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญซึ่งการอ้างอาจไปละเมิด พ.ร.บ.ต่างๆ ที่จะต้องนำมาปฏิบัติ ดังนั้น ขอให้สร้างการรับรู้ ถ้าไม่จำเป็นคงไม่ต้องมีกฏหมาย รัฐบาลมีความจำเป็นเพราะมีหมายสิ่งไม่ถูกต้อง บางครั้งมีการเขียนโดยไม่ได้การรับผิดชอบ ทำให้ประเทศเสียหาย ซึ่งในทุกประเทศก็มีกฏหมายดูแลสื่อ และจากการหารือทุกประเทศเห็นตรงกัน ว่าจะต้องมีการดูแลสื่อ เพราะโลกวันข้างหน้า จะมีการละเมิดอย่างกว้างขวางมากในชีวิตประจำวัน โดยการใช้สื่อจากโซเซียล
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวย้ำว่า ไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ซึ่งหากจะเห็นด้วยต้องไปรับฟังความเห็นของประชาชนก่อน และสิ่งที่เกิดขึ้นเคยมอบให้สมาคมสื่อดูกันเอง แต่ไม่สามารถทำได้ และเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมา หาคนรับผิดชอบไม่ได้ ดังนั้นสื่อเองต้องรับ ทำให้เกิดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ไม่ใช่กลัวรัฐบาลมาปิดกั้นสื่อ เพราะปิดกั้นสื่อตนก็ทำงานไม่ได้เช่นกัน เพราะรัฐบาลก็ต้องใช้ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ของผลงาน
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวย้ำว่า ไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ซึ่งหากจะเห็นด้วยต้องไปรับฟังความเห็นของประชาชนก่อน และสิ่งที่เกิดขึ้นเคยมอบให้สมาคมสื่อดูกันเอง แต่ไม่สามารถทำได้ และเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมา หาคนรับผิดชอบไม่ได้ ดังนั้นสื่อเองต้องรับ ทำให้เกิดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ไม่ใช่กลัวรัฐบาลมาปิดกั้นสื่อ เพราะปิดกั้นสื่อตนก็ทำงานไม่ได้เช่นกัน เพราะรัฐบาลก็ต้องใช้ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ของผลงาน