พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (25 เม.ย.) รับทราบผลการดำเนินการของคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์การจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ใน ๓ ประเด็น คือ
๑. หมายกำหนดการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวน 5 วัน ระหว่างวันที่ ๒๕ - ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐
๒. การจัดทำภาพประดับซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ของประชาชน โดยเห็นสมควรเป็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมภาพพระบรมโกศ โดยได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตการบันทึกภาพพระบรมโกศบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และ
๓. การจัดนิทรรศการภายหลังงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ซึ่งเห็นสมควรกำหนดเป็น 30 วัน ระหว่างวันที่ ๑ - ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ โดยให้กระทรวงวัฒนธรรมเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ
นอกจากนี้ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า การประกาศวันหยุด คณะรัฐมนตรีสามารถพิจารณาเพิ่มได้ โดยอาจจะมีการเสนอวันหยุดเพิ่มเติมในวันที่ ๒๕ ตุลาคม เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ต่างจังหวัดจะต้องเดินทางเข้ามา และวันที่ ๒๗ ตุลาคม จะต้องเดินทางกลับ แต่มีข้อกังวลกันว่าในเดือนตุลาคม มีวันหยุดหลายวัน นายวิษณุจึงเสนอว่ามีวิธีคือ ๑. ไม่ต้องประกาศเป็นวันหยุด ใครอยากมาก็มา ๒. ประกาศหยุดทั้งประเทศ และ ๓. ประกาศให้เฉพาะต่างจังหวัดหยุด แต่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลไม่หยุด อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์การจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พิจารณาอีกครั้ง หากเห็นว่าสมควรจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติต่อไป
สำหรับกำหนดการในวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๐ จะเป็นการบำเพ็ญพระราชกุศลก่อนออกพระเมรุ ในเวลา ๑๗.๓๐ น.
วันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งจะมีพระราชพิธี ๓ ช่วง คือ ช่วงที่หนึ่ง เวลา ๐๗.๐๐ น. อัญเชิญพระบรมโกศ ขึ้นพระราชยานเข้าขบวนแห่ไปตรงหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ก่อนเปลี่ยนขึ้นราชรถเชิญไปสู่ท้องสนามหลวง ช่วงที่สอง คือ การถวายพระเพลิงในเวลา ๑๗.๓๐ น.
ช่วงที่สาม เวลา ๒๒.๐๐ น. เป็นการถวายพระเพลิงจริง
จากนั้นวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๐ เวลา ๐๖.๐๐ น. เป็นวันเก็บพระบรมอัฐิ
วันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๐ พระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมอัฐิ ในเวลา ๑๗.๓๐ น.
วันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๐.๓๐ น. อัญเชิญพระบรมอัฐิขึ้นพระวิมาน จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เพื่อนำไปเก็บไว้ในห้องพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิพระเจ้าแผ่นดินทุกรัชกาล และเวลา ๑๗.๓๐ น. จะอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาร เชิญเข้าขบวนแห่อิสริยยศไปประดิษฐานที่วัดพระราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ซึ่งถือเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๙
๑. หมายกำหนดการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จำนวน 5 วัน ระหว่างวันที่ ๒๕ - ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐
๒. การจัดทำภาพประดับซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ของประชาชน โดยเห็นสมควรเป็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมภาพพระบรมโกศ โดยได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตการบันทึกภาพพระบรมโกศบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และ
๓. การจัดนิทรรศการภายหลังงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ซึ่งเห็นสมควรกำหนดเป็น 30 วัน ระหว่างวันที่ ๑ - ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ โดยให้กระทรวงวัฒนธรรมเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ
นอกจากนี้ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า การประกาศวันหยุด คณะรัฐมนตรีสามารถพิจารณาเพิ่มได้ โดยอาจจะมีการเสนอวันหยุดเพิ่มเติมในวันที่ ๒๕ ตุลาคม เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ต่างจังหวัดจะต้องเดินทางเข้ามา และวันที่ ๒๗ ตุลาคม จะต้องเดินทางกลับ แต่มีข้อกังวลกันว่าในเดือนตุลาคม มีวันหยุดหลายวัน นายวิษณุจึงเสนอว่ามีวิธีคือ ๑. ไม่ต้องประกาศเป็นวันหยุด ใครอยากมาก็มา ๒. ประกาศหยุดทั้งประเทศ และ ๓. ประกาศให้เฉพาะต่างจังหวัดหยุด แต่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลไม่หยุด อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์การจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พิจารณาอีกครั้ง หากเห็นว่าสมควรจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติต่อไป
สำหรับกำหนดการในวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๐ จะเป็นการบำเพ็ญพระราชกุศลก่อนออกพระเมรุ ในเวลา ๑๗.๓๐ น.
วันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ เป็นวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งจะมีพระราชพิธี ๓ ช่วง คือ ช่วงที่หนึ่ง เวลา ๐๗.๐๐ น. อัญเชิญพระบรมโกศ ขึ้นพระราชยานเข้าขบวนแห่ไปตรงหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ก่อนเปลี่ยนขึ้นราชรถเชิญไปสู่ท้องสนามหลวง ช่วงที่สอง คือ การถวายพระเพลิงในเวลา ๑๗.๓๐ น.
ช่วงที่สาม เวลา ๒๒.๐๐ น. เป็นการถวายพระเพลิงจริง
จากนั้นวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๐ เวลา ๐๖.๐๐ น. เป็นวันเก็บพระบรมอัฐิ
วันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๐ พระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมอัฐิ ในเวลา ๑๗.๓๐ น.
วันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๐.๓๐ น. อัญเชิญพระบรมอัฐิขึ้นพระวิมาน จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เพื่อนำไปเก็บไว้ในห้องพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิพระเจ้าแผ่นดินทุกรัชกาล และเวลา ๑๗.๓๐ น. จะอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาร เชิญเข้าขบวนแห่อิสริยยศไปประดิษฐานที่วัดพระราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ซึ่งถือเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๙