วันนี้ (23 เม.ย.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจากทั่วประเทศ จำนวน 1,119 คน เรื่อง "รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ในสายตาประชาชน" จากกรณีการบริหารประเทศของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กำลังก้าวสู่ปีที่ 3 โดยเรื่องที่จะทำให้ประชาชนนิยมชมชอบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มากขึ้น ร้อยละ 70.51 ระบุ เป็นเรื่องการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน เพราะเห็นว่ามีการปราบปรามอย่างเด็ดขาด ต่อเนื่อง จริงจัง มีผลงานให้เห็นชัดเจน และเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ขณะที่ร้อยละ 65.33 ระบุ การที่บ้านเมืองเป็นระเบียบ สงบสุข ไม่มีการชุมนุมประท้วง เพราะเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศดีขึ้น บ้านเมืองไม่วุ่นวาย และร้อยละ 62.56 ระบุ การบริหารบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้า มั่นคง เพราะประเทศจะได้พัฒนา ทันสมัย พัฒนาในทางที่ดีขึ้น สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ และประชาชนอยู่ดีกินดี
ส่วนเรื่องที่จะทำให้ประชาชนนิยมชมชอบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ลดลง ได้แก่ เศรษฐกิจย่ำแย่ ประชาชนมีความเป็นอยู่ลำบาก ร้อยละ 76.50 เพราะทำให้การค้าการลงทุนหยุดชะงัก ค่าครองชีพแพง ประชาชนตกงาน ต้องกู้หนี้ยืมสิน รายได้ไม่พอจ่าย ขณะที่ร้อยละ 73.46 ระบุ การบังคับใช้กฎหมาย เช่น เก็บภาษี กฎหมายจราจร เพราะทำให้ประชาชนต้องลำบาก มีกระแสต่อต้าน ไม่เห็นด้วย ทำให้เกิดการคัดค้านโจมตีรัฐบาล และร้อยละ 68.36 ระบุ ความเผด็จการ ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น เพราะใช้อำนาจมากเกินไป ประชาชนไม่ค่อยมีโอกาสแสดงความคิดเห็น มีส่วนร่วมทางการเมืองน้อย
อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวม ณ วันนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 44.77 มีความนิยมชมชอบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เท่าๆ เดิม โดยให้เหตุผลว่า มั่นใจในตัวนายกรัฐมนตรี สามารถควบคุมสถานการณ์และแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ และทำงานด้วยความเสียสละ ส่วนร้อยละ 29.40 ระบุว่ามีความนิยมชมชอบลดลง เพราะยังไม่สามารถแก้ปัญหาปากท้องได้ เศรษฐกิจไม่ดี สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่ปกติ และมีการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ ขณะที่มีเพียงร้อยละ 25.83 ที่นิยมชมชอบมากขึ้น โดยให้เหตุผลว่า ยังมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ตั้งใจที่จะดำเนินการตามโรดแมป ทำงานรวดเร็ว มีนโยบายช่วยเหลือประชาชน
สำหรับสิ่งที่ประชาชนอยากฝากบอกรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ร้อยละ 80.70 ระบุ อยากให้เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง และคุณภาพชีวิตของประชาชน ร้อยละ 71.58 ระบุ อยากให้ดำเนินงานตามโรดแมป จัดการเลือกตั้ง เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย และร้อยละ 69.97 อยากให้ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้
ส่วนเรื่องที่จะทำให้ประชาชนนิยมชมชอบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ลดลง ได้แก่ เศรษฐกิจย่ำแย่ ประชาชนมีความเป็นอยู่ลำบาก ร้อยละ 76.50 เพราะทำให้การค้าการลงทุนหยุดชะงัก ค่าครองชีพแพง ประชาชนตกงาน ต้องกู้หนี้ยืมสิน รายได้ไม่พอจ่าย ขณะที่ร้อยละ 73.46 ระบุ การบังคับใช้กฎหมาย เช่น เก็บภาษี กฎหมายจราจร เพราะทำให้ประชาชนต้องลำบาก มีกระแสต่อต้าน ไม่เห็นด้วย ทำให้เกิดการคัดค้านโจมตีรัฐบาล และร้อยละ 68.36 ระบุ ความเผด็จการ ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น เพราะใช้อำนาจมากเกินไป ประชาชนไม่ค่อยมีโอกาสแสดงความคิดเห็น มีส่วนร่วมทางการเมืองน้อย
อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวม ณ วันนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 44.77 มีความนิยมชมชอบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เท่าๆ เดิม โดยให้เหตุผลว่า มั่นใจในตัวนายกรัฐมนตรี สามารถควบคุมสถานการณ์และแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ และทำงานด้วยความเสียสละ ส่วนร้อยละ 29.40 ระบุว่ามีความนิยมชมชอบลดลง เพราะยังไม่สามารถแก้ปัญหาปากท้องได้ เศรษฐกิจไม่ดี สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่ปกติ และมีการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ ขณะที่มีเพียงร้อยละ 25.83 ที่นิยมชมชอบมากขึ้น โดยให้เหตุผลว่า ยังมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ตั้งใจที่จะดำเนินการตามโรดแมป ทำงานรวดเร็ว มีนโยบายช่วยเหลือประชาชน
สำหรับสิ่งที่ประชาชนอยากฝากบอกรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ร้อยละ 80.70 ระบุ อยากให้เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง และคุณภาพชีวิตของประชาชน ร้อยละ 71.58 ระบุ อยากให้ดำเนินงานตามโรดแมป จัดการเลือกตั้ง เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย และร้อยละ 69.97 อยากให้ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้