xs
xsm
sm
md
lg

พสกนิกรต่างน้อมนำหลักปรัชญา ศก.พอเพียงไปใช้ในการดำเนินชีวิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง วันนี้ (20 เม.ย.) ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 169 วัน ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

นางทองม้วย บุตรวงศ์ อายุ 60 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น ได้เดินทางมาพร้อมกับสมาชิกศูนย์โยเร จ.ขอนแก่น จำนวน 48 คน โดยได้ออกเงินกันคนละ 400 บาท เพื่อเหมารถบัสเดินทางมา กล่าวภายหลังที่ได้สักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ว่า เพิ่งมีโอกาสได้มาสักการะพระบรมศพเป็นครั้งแรก รู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างยิ่ง ได้กราบอฐิษฐานขอพรต่อเบื้องหน้าพระบรมโกศพระบรมศพ ว่า ขอให้พระองค์คุ้มครองปกปักรักษาชาวไทยทุกคนให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ตลอดระยะเวลากว่า 70 ปีที่ทรงครองราชย์ ในหลวง ร.9 ทรงงานหนักมาโดยตลอดเพื่อความอยู่ดีกินดีของปวงชนชาวไทย โดยเฉพาะภาพพระราชกรณียกิจที่พระหัตถ์ข้างหนึ่งทรงถือแผนที่ อีกข้างหนึ่งทรงถือกล้องถ่ายภาพส่วนพระองค์ ประทับนั่งข้างรถจี๊ป เพื่อทรงงานให้ราษฎรอยู่ดีกินดี ซึ่งเห็นภาพนี้ทีไรน้ำตาก็จะไหลทุกครั้ง ส่วนตัวนั้นจะนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต ใช้จ่ายอย่างพอเพียง ไม่ฟุ้งเฟ้อ พยายามรักษาตนอยู่ในศีล 5 ไม่เบียดเบียนใครและไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่สังคมและประเทศชาติ

นายอวยพร นฤภัย อายุ 79 ปี อดีตพนักงานขับรถการท่าเรือฯ เปิดเผยว่า ตื่นตั้งแต่ 4 เดินทางเพียงลำพังเพื่อมากราบสักการะพระบรมศพ โดยมาถึงสนามหลวงในเวลา 05.00 น. และได้ขึ้นกราบในเวลาประมาณ 7 โมงเช้า เปิดเผยว่า ตนมากราบในหลวงมากกว่า 10 ครั้งแล้ว ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์มีต่อประเทศชาติและปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สุดไม่ได้ จากนี้ตั้งใจจะมาอีกเรื่อยๆ เพราะรู้สึกปลาบปลื้มในพระองค์มาก และเมื่อได้มาเห็นคนที่รักพระองค์ก็รู้สึกตื้นตันใจด้วย โดยขณะที่พระองค์ประชวรประทับที่โรงพยาบาลศิริราช ตนได้รอรับเสด็จหลายครั้ง เมื่อเห็นพระพักตร์ก็มีน้ำตาไหลทุกครั้ง เป็นความตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก

"ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงห่วงใยทุกข์สุขของประชาชนในทุกพื้นที่ ใครลำบากพระองค์ก็เสด็จฯ ไปช่วยเหลืออย่างไม่กลัวเหนื่อย ภาพที่ผมจำได้คือพระองค์พระดำเนินเร็ว มีพระเสโทไหลขณะทรงงาน และสิ่งที่พระองค์ทำนั้นไม่หวังสิ่งตอบแทน นอกจากเห็นประชาชนอยู่ดีมีสุข แม้ว่าพระองค์เสด็จสวรรคตไปแล้ว แต่ผมยังรู้สึกว่าพระองค์ท่านยังอยู่ และจะอยู่ในใจตลอดไป" นายอวยพร กล่าวด้วยความซาบซึ้ง

ด้านนางเพชรดา ทิดเวล (เพียรเจริญทรัพย์) อายุ 40 ปี อาชีพพนักงานบริษัทเอกชน ณ รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาพร้อมกับบุตรชาย คือ ดช.ไรเคอร์ คีฏวัณ ทิดเวล อายุ 3 ขวบ ซึ่งหลังจากเรียนจบคณะวิศวกรรมไฟฟ้า ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ตนก็เดินทางไปทำงานอยู่ที่รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา เป็นระยะเวลา 16 ปีแล้ว และมีครอบครัวอยู่ที่นั่น ในโอกาสเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านที่ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงได้ถือโอกาสนี้เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ตามที่ได้ตั้งใจไว้เพื่อเป็นสิริมงคล ก่อนที่จะเดินทางกลับสหรัฐอเมริกา ในวันพรุ่งนี้ (21 เม.ย.) วันนี้ตั้งใจมากราบพระองค์ท่าน ดีใจมากที่ได้เข้ากราบตามที่ตั้งใจไว้แล้ว ซึ่งเมื่อวันที่ 14 เมษายน เดินทางมาครั้งหนึ่งแล้วในช่วงเวลา 09.00 น. คนเยอะมากและติดคณะเจ้าภาพ แต่อากาศร้อนมากจึงพาลูกเดินทางกลับก่อน ส่วนวันนี้เดินทางมาถึงช่วงเวลา 06.00 น.และเข้ากราบเสร็จเวลา 07.15 น.

"ถึงแม้เราจะอยู่ไกลแต่ก็มีพระองค์ท่านอยู่ในใจ เวลาที่เราเหนื่อย ท้อแท้ นอกเหนือจากพ่อแม่พี่น้องแล้ว คิดถึงพระองค์ท่านก็มีกำลังใจ ที่บ้านต่างประเทศจึงมีพระบรมฉายาลักษณ์พระองค์ท่านอยู่ และที่โต๊ะทำงานก็มีคำสอนในเรื่องความพอเพียง ขยันอดทน คือไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย หรือเกินตัว เวลาซื้อของใช้ลูก ก็ซื้อที่ลูกใช้ได้จริง ไม่ใช่ซื้อที่ตัวเองอยากได้ ส่วนสามีก็ชื่นชมพระองค์ท่านว่าทรงเป็นพระมหากษัตริยะที่เจ๋งมาก ทรงอัจฉริยะหลายด้าน ทั้งด้านดนตรี วิศวกร การทำฝนเทียม การสร้างเขื่อน เพื่อช่วยเหลือประชาชน และทรงไปเยี่ยมราษฎรในถิ่นธุรกันดารโดยไม่เหน็จเหนื่อย" นางเพชรดา กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น